แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
บิดาโจทก์เช่าตึกจำเลยอาศัยอยู่ในตึกกับโจทก์ บิดาโจทก์ตายโจทก์ทำสัญญาเช่าแทนบิดาโจทก์จากผู้ให้เช่าเดิม จำเลยไม่ออกจากตึกแม้โจทก์อยู่ที่อื่น โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องอ้างว่าเป็นบุตรและทายาทของบิดาผู้เช่าตึกเดิม ได้เช่าตึกสืบแทนบิดาที่ตาย ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาขับไล่จำเลย จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้จำเลยฎีกาปัญหาข้อกฎหมายว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
พิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงได้ความว่า เดิมตึกพิพาทบิดาโจทก์ได้เช่าจากกรมการศาสนา เมื่อบิดาโจทก์ตาย โจทก์ทำสัญญาเช่าตึกพิพาทแทนจากกรมการศาสนา ส่วนจำเลยทั้งสองเข้ามาอยู่ในตึกพิพาทในฐานะอาศัยบิดาโจทก์ปัญหาว่าโจทก์มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองหรือไม่นั้น เห็นว่า เมื่อบิดาโจทก์ตาย โจทก์ได้ขอเช่าและทำสัญญาเช่าแทนจากกรมการศาสนาแล้ว ตามเอกสารสัญญาเช่าหมาย จ.14 ย่อมถือว่าโจทก์มีสิทธิในตึกพิพาท แม้โจทก์จะไปอยู่ที่อื่นก็ตาม ส่วนจำเลยทั้งสองถึงแม้จะยังอยู่ในตึกพิพาท แต่ก็อยู่ในฐานะผู้อาศัยมิได้เป็นผู้เช่าจึงไม่มีสิทธิในตึกพิพาท โจทก์จึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยทั้งสองได้”
พิพากษายืน