คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2009/2522

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยชักสิ่วออกมาขู่จะทำร้ายในการปล้น เป็นการปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรค 2

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 335 จำคุก 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี จำคุก 18 ปี ของกลางริบ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “อาวุธที่จำเลยชักออกมาน่าจะเป็นสิ่วดังที่ร้อยตำรวจโทชัยวัฒน์บันทึกไว้ แต่นายจันทร์ดีเข้าใจว่าเป็นปืนจึงยิงจำเลยไป แต่ถึงแม้จะเป็นสิ่วก็เป็นอาวุธที่จำเลยชักออกมาขู่เข็ญว่าจะทำร้ายจำเลยจึงมีความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธติดตัวไปด้วยเท่านั้น และไม่มีความผิดโดยมีหรือใช้อาวุธปืนดังคำฟ้องของโจทก์

พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคสอง ให้จำคุก 12 ปี จำเลยรับสารภาพตามบันทึกของนายเชื่อมกำนันตำบลระเวียงหมาย จ.3 เป็นเหตุบรรเทาโทษให้ลดโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 หนึ่งในสาม คงจำคุก 8 ปี นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

Share