แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยฎีกาว่า แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาจำเลยก็ยังไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชกตามฟ้องดังนี้ เป็นการกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้ยกข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้งในฎีกาแต่ประการใดเลย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบ
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยร่วมกับคนร้ายพยายามกรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหาย พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 337, 80 จำคุก 8 เดือน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้ปรากฏว่าศาลล่างทั้งสองฟังข้อเท็จจริงต้องกันว่า จำเลยได้ร่วมกับคนร้ายพยายามกรรโชกทรัพย์จากผู้เสียหายจริงตามฟ้อง จำเลยคงฎีกาว่า แม้ข้อเท็จจริงจะได้ความตามที่ศาลอุทธรณ์ฟังมาก็ตาม จำเลยก็เห็นว่าจำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชกตามฟ้อง ศาลฎีกาเห็นว่าที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยยังไม่มีความผิดฐานพยายามกรรโชกนั้น จำเลยกล่าวอ้างลอย ๆ ไม่ได้ยกข้อกฎหมายขึ้นอ้างอิงไว้โดยชัดแจ้งในฟ้องฎีกาแต่ประการใดเลย จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 วรรคสอง ประกอบด้วยมาตรา 225ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย”