คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2520

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ สำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงคราม (ไว้) โดยมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่าย ไม่อยู่ในข่ายที่จะได้รับยกเว้นโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ.2518

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 6 ตุลาคม 2517 เวลากลางคืน (ก่อนเที่ยง)ถึงวันที่ 9 ตุลาคม 2517 เวลากลางคืน (หลังเที่ยง) จำเลยกับพวกบังอาจร่วมกันนำเข้า มีและค้าอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามคือกระสุนปืนไร้แรงสะท้อนถอยหลังแบบ 93 ม.ม. ขนาด 57 ม.ม.จำนวน 136 นัด จรวดยิงต่อสู้รถถังแบบเอ็ม 72 ขนาด 66 ม.ม. และเครื่องยิงจรวดดังกล่าวประกอบไว้เป็นชุดจำนวน 15 เครื่อง กระสุนเครื่องยิงลูกระเบิดแบบเอ็ม 79 ขนาด 40 ม.ม. จำนวน 808 นัด ลูกระเบิดขว้างชนิดสังหารแบบ 88บ.67 จำนวน 351 ลูกจรวดยิงต่อสู้รถถังแบบเอ็ม 28 เอ 2 ขนาด 3.5 นิ้ว จำนวน100 นัด กระสุนปืนเล็กแบบ 08 ขนาด 5.56 ม.ม. จำนวน 1,400 นัด และกระสุนปืนกลแบบ 93 ขนาด .50 นิ้ว จำนวน 1,150 นัดโดยจำเลยกับพวกร่วมกันนำอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนดังกล่าวจากประเทศลาวเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อเอาไปขายแก่ผู้มีชื่อที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เหตุเกิดที่ตำบลบ้านหม้ออำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ตำบลแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตากและตำบลลานหอย อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 55, 78พระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2501 มาตรา 5, 8 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 ริบของกลาง

จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ฐานเป็นผู้ช่วยเหลือในการกระทำความผิดมีกำหนด 12 ปี ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 มีกำหนดคนละ20 ปี ลดโทษให้คนละหนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 8 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 ถึงที่ 4 มีกำหนดคนละ 13 ปี4 เดือน สำหรับจำเลยที่ 5 ที่ 6 ให้ยกฟ้อง ยกคำขอที่ให้ริบของกลางเพราะศาลสั่งริบไปแล้วในคดีอาญาแดงที่ 575/2517 ของศาลจังหวัดสุโขทัย

จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายว่า ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มีพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 6)พ.ศ. 2518 บัญญัติยกเว้นโทษแก่ผู้ที่มีอาวุธปืน กระสุนปืนทุกชนิด อันเป็นผลให้จำเลยไม่ต้องรับโทษ แต่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้นำพระราชบัญญัติอาวุธปืนดังกล่าวมาพิจารณาให้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่จำเลยที่ 1 ถึงที่ 4 มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะแต่ในการสงครามแต่ละชนิดเป็นจำนวนมากโดยมีเจตนาเพื่อการค้าหรือเพื่อการจำหน่าย ไม่อยู่ในข่ายหรือความมุ่งหมายของพระราชบัญญัติอาวุธปืน ฯลฯ (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 ที่บัญญัติจะไม่เอาโทษแก่ผู้กระทำผิดสำหรับกรณีนี้

ส่วนข้อเท็จจริงฟังว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้สนับสนุนจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4ร่วมกันมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนและวัตถุระเบิดสำหรับใช้เฉพาะในการสงครามไว้เพื่อขายจริงตามฟ้อง

พิพากษายืน

Share