คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1829/2500

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เสมียนตรวจคนเข้าเมืองประจำอำเภอซึ่งมีหน้าที่ทำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และปลัดอำเภอซึ่งมีหน้าที่เซ็นใบสำคัญ ได้จัดทำใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวออกให้ไปโดยรู้อยู่ว่าไม่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวตัวจริง ย่อมเป็นการปลอมหนังสือตาม มาตรา 230
จำเลยผู้เป็นคนต่างด้าวแต่ไม่มีใบสำคัญประจำตัวอยู่ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ออกใบแทนใบสำคัญ เพื่อที่จะให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ในการทำใบสำคัญจัดทำใบแทนใบสำคัญให้โดยรู้อยู่ว่าใบสำคัญตัวจริงไม่มีอยู่ ดังนี้ นับว่าเป็นการอุปการะแก่การกระทำผิดของเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งจัดทำใบแทนใบสำคัญให้โดยรู้อยู่ว่าไม่มีใบสำคัญตัวจริงจัดว่าเป็นการสมรู้ด้วยการกระทำของเจ้าหน้าที่ผู้จัดออกใบแทนใบสำคัญดังกล่าวแล้วด้วย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม กฎหมายอาญา มาตรา 222, 224, 227, 229, 230, 63 โดยกล่าวหาว่า จำเลยที่ 1 รับราชการเป็นปลัดอำเภอเมืองพังงาจำเลยที่ 2 รับราชการเป็นเสมียนตรวจคนเข้าเมืองประจำอำเภอเมืองพังงา มีหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและทำใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวประจำอำเภอเมืองพังงา จำเลยที่ 3 เป็นคนต่างด้าวซึ่งต้องมีใบสำคัญประจำตัว จำเลยรู้อยู่ว่าใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวสำหรับจำเลยที่ 3 ไม่มี บังอาจสมคบกันทำใบแทนใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวสำหรับจำเลยที่ 3 อันเป็นหนังสือปลอมขึ้นทั้งฉบับ ฯลฯ

จำเลยที่ 1 ให้การมีใจความสำคัญว่า จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตรวจคนต่างด้าวประจำอำเภอเมืองพังงา เอามาให้จำเลยเซ็นว่าเป็นใบต่างด้าวของจำเลยที่ 3 ฯลฯ

จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธว่า จำเลยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว

จำเลยที่ 3 ให้การมีใจความสำคัญว่า จำเลยได้รับใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวจากเจ้าพนักงานตั้งแต่ทางราชการประกาศให้มีใบสำคัญประจำตัว ได้ต่ออายุทุกปี เมื่อ พ.ศ. 2493 ไปต่ออายุจำเลยที่ 1 แนะนำว่า ใบสำคัญชำรุดให้ขอใบแทนเสียใหม่ จำเลยที่ 1เรียกเงินไปแล้วออกใบแทนให้ จำเลยเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นใบสำคัญอันแท้จริง ฯลฯ

ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาว่าจำเลยผิดตาม กฎหมายอาญา มาตรา 230 ลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1, 2 คนละ 5 ปีลงโทษจำคุกจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้สมรู้โดยลดตาม มาตรา 65 คงจำคุก 3 ปี 4 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้องโจทก์

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า เอกสารต้นเรื่องของการออกใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าวสำหรับจำเลยที่ 3 ไม่มี แต่จำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 ผู้เป็นเจ้าหน้าที่ได้จัดทำใบแทนให้ไป โดยทำแทนใบสำคัญอันไม่มีตัวจริงเป็นการปลอมหนังสือตามความใน มาตรา 230 กฎหมายอาญา ซึ่งโจทก์กล่าวหาและขอให้ลงโทษจำเลยด้วย ส่วนจำเลยที่ 3 ไม่มีใบสำคัญประจำตัวอยู่ แล้วไปร้องขอให้เจ้าหน้าที่ออกใบแทนให้ ย่อมรู้ได้โดยธรรมดาว่าเป็นการผิดการกระทำของจำเลยเป็นการอุปการะแก่การกระทำความผิด จัดว่าเป็นการสมรู้ด้วยการกระทำของจำเลยที่ 1, 2

พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ บังคับคดีตามศาลชั้นต้น

Share