แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยออกเช็คพิพาทให้ ก. โดยไม่มีเจตนาที่จะให้ผูกพันชำระหนี้กันได้ตามกฎหมาย แต่เป็นการค้ำประกันเงินที่จำเลยรับไปโดยมีข้อตกลงให้หักจากเงินค่าจ้างของจำเลยในการรับจ้างก่อสร้างทาวน์เฮ้าส์ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่ง ก. เป็นหุ้นส่วนและมีอำนาจเบิกจ่ายเงินร่วมกับหุ้นส่วนผู้จัดการ ดังนั้น แม้โจทก์จะรับโอนเช็คพิพาทมาและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกาข้อเท็จจริง โดยได้รับอนุญาตให้ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยได้ออกเช็คพิพาทหมาย จ.2, จ.4 สั่งจ่ายเงินสดฉบับละ 100,000 บาท ให้นายเกริกผลวินาส หรือผู้ถือ โดยไม่ได้ลงลายมือชื่อเป็นภาษาจีนท้ายลายมือชื่อภาษาไทยตามตัวอย่างที่ให้ไว้ โจทก์เป็นผู้ครอบครองเช็คพิพาททั้งสองฉบับนั้นได้นำไปเข้าบัญชีของโจทก์ที่ธนาคารกรุงไทยจำกัด สาขาถนนศรีอยุธยา ให้เรียกเก็บเงิน ธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามใบคืนเช็คหมาย จ.2,จ.5 เมื่อวันที่ 1 และวันที่ 15 สิงหาคม 2522 ตามลำดับ
คดีมีข้อวินิจฉัยว่าจำเลยได้ออกเช็คพิพาทที่กล่าว “หรือเพื่อ” เป็นการค้ำประกันเงินที่จำเลยเอาไปจากนายเกริก ผลนิวาส เป็นให้ในการก่อสร้าง” ฯลฯ
“คดีมีเหตุผลน่าเชื่อว่าจำเลยได้ออกเช็คพิพาทให้นายเกริก ผลนิวาสโดยไม่มีเจตนาที่จะให้ผูกพันชำระหนี้กันได้ตามกฎหมาย แต่เป็นการค้ำประกันเงินที่จำเลยรับไปโดยมีข้อตกลงให้หักจากเงินค่าจ้างของจำเลยในการรับจ้างก่อสร้างทาวน์เฮ้าส์ให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดจตุรมิตรก่อสร้าง ซึ่งนายเกริก ผลนิวาสเป็นหุ้นส่วนและมีอำนาจเบิกจ่ายเงินร่วมกับหุ้นส่วนผู้จัดการ ดังนั้นถึงแม้บริษัทโจทก์จะรับโอนเช็คพิพาทมา และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ไม่มีความผิด”
พิพากษายืน