คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2138/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมีเรื่องไม่พอใจ. ถ.จึงใช้ปืนยิงถ.และกระสุนปืนไปถูกส. และ บ. ด้วย แม้จะมีการยิงหลายนัด ก็เป็นการยิงเพื่อเจตนาฆ่า ถ. การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดกรรมเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนสั้นมีหมายเลขทะเบียนของนายไล่ฮวดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้ปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย 3 คนขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80, 91, 33พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ และริบของกลาง

จำเลยรับสารภาพข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ ปฏิเสธข้อหาพยายามฆ่า

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ข้อ 2 ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรม จำคุกกระทงละ 10 ปี คำให้การจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกกระทงละ 6 ปี 8 เดือน และผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 มาตรา 7, 72 พระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ (ฉบับที่ 5)พ.ศ. 2517 มาตรา 3 จำคุก 6 เดือน คำรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน รวมโทษจำคุก 20 ปี 3 เดือน ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง ส่วนอาวุธปืนของกลางเป็นของผู้อื่นซึ่งมิได้รู้เห็นกับการกระทำผิดจึงไม่ริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียว จึงมีความผิดเพียงกระทงเดียว พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 จำคุก 10 ปี ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุก 6 ปี 8 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาว่า นอกจากจำเลยจะมีเจตนาฆ่านายถนอมแล้ว ยังมีเจตนาที่จะฆ่านายโสภณและนายบุรินทร์ด้วย ถือได้ว่าเป็นการกระทำความผิดหลายกรรม

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ที่ร้านกาแฟเกิดเหตุนอกจากจะมีนายถนอมซึ่งไปนั่งอยู่ก่อนแล้ว ปรากฏว่านายโสภณ นายบุรินทร์ และคนอื่น ๆ อยู่ด้วยแยกย้ายกันนั่งแต่ละโต๊ะ เมื่อจำเลยยิงนายถนอมนัดแรกแล้ว ผู้คนภายในร้านพากันแตกตื่น บ้างลุกหนีออกนอกร้าน บ้างหลบใต้โต๊ะ ระหว่างนี้เองเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด กระสุนปืนไปถูกนายโสภณและนายบุรินทร์ขณะหลบหนีเช่นคนอื่น ๆ แล้ววินิจฉัยว่า สาเหตุที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายถนอมเนื่องจากความไม่พอใจที่นายถนอมพูดทวงค่าเบียร์ให้นางฟ้าเหี้ยง ส่วนนายโสภณและนายบุรินทร์แม้จะนั่งอยู่ในร้านเกิดเหตุด้วย ก็หาได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนี้ด้วยไม่ และไม่ปรากฏว่า หลังจากจำเลยยิงนายถนอมแล้ว จำเลยได้ส่ายกระบอกปืนจ้องยิงไปยังบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดขณะนั้น จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยมีเจตนายิงนายโสภณและนายบุรินทร์ การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงนายถนอมและกระสุนปืนไปถูกนายโสภณและนายบุรินทร์ แม้จะมีการยิงหลายนัด ก็เป็นการยิงเพื่อเจตนาฆ่านายถนอม การกระทำของจำเลยจึงเป็นการกระทำผิดกรรมเดียว

พิพากษายืน

Share