คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2107/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ก่อนมีคำสั่งตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21(4) ถ้าศาลเห็นว่าแม้จะได้ความตามคำร้องก็ไม่มีผลตามคำร้อง ศาลสั่งยกคำร้องได้ โดยไม่ต้องไต่สวน

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ สั่งปรับนายประกัน 160,000 บาท ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงปรากฏตามสำนวนได้ความว่าหลังจากจำเลยที่ 2 ได้ประกันตัวไปแล้ว ต่อมาวันนัดพิจารณาสืบพยานโจทก์นัดแรกและนัดที่ 2 จำเลยที่ 2 ไม่มาศาล ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีทั้ง 2 นัดโดยนัดแรกผู้ร้องอ้างว่า จำเลยที่ 2 ไปธุระเกี่ยวกับกิจการค้าที่อำเภอแม่สายจังหวัดเชียงราย แล้วเกิดป่วยกระทันหันไม่สามารถเดินทางกลับทันกำหนดนัดศาลชั้นต้นอนุญาต และนัดที่ 2 อ้างว่าจำเลยที่ 2 ยังป่วยอยู่เดินทางมาไม่ได้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า มีพฤติการณ์ประวิงคดีให้ถอนสัญญาประกัน กำหนดให้ผู้ร้องส่งตัวจำเลยที่ 2 ภายใน 15 วัน ครั้นถึงกำหนดนัด ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องทราบว่าเมื่อจำเลยหายป่วยแล้วเดินทางเข้าไปค้าขายในสหภาพพม่าแล้วถูกจับกุมในข้อหามีอาวุธปืน ต้องคุมขังอยู่ที่เมืองตองยี ยังไม่สามารถติดต่อตามตัวมาส่งศาลได้ ขอเวลาอีก 30 วัน จะจัดการไปประกันตัวกลับมาส่งศาลในนัดชี้ศาลชั้นต้นสั่งว่าผู้ร้องผิดสัญญาประกัน แต่ให้โอกาสผู้ร้องนำตัวมาส่งศาลภายใน 30 วัน จะพิจารณาเรื่องค่าปรับต่อไป ครั้นเมื่อถึงกำหนดดังกล่าว ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ทราบว่าจำเลยที่ 2 ถูกจำคุกที่สหภาพพม่าไม่สามารถนำตัวส่งศาลได้อีก ศาลชั้นต้นจึงสั่งปรับนายประกันเต็มตามสัญญา

พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามสัญญาประกัน ผู้ร้องจะต้องนำตัวจำเลยที่ 2มามอบต่อศาลตามนัด เมื่อผู้ร้องนำตัวจำเลยที่ 2 ส่งมอบต่อศาลไม่ได้ตามนัด ก็เป็นการผิดสัญญา ผู้ร้องต้องรับผิดตามสัญญาประกันที่ทำไว้ การที่ศาลชั้นต้นมิได้ไต่สวนคำร้องของผู้ร้องที่อ้างว่า จำเลยเดินทางไปค้าขายที่สหภาพพม่าแล้วถูกจับเรื่องอาวุธปืนและถูกจำคุก ไม่สามารถนำตัวส่งศาลได้นั้น ก็เพราะศาลชั้นต้นไม่เห็นสมควรที่จะต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 21(4) โดยเห็นว่าแม้จะได้ความตามคำร้องก็ไม่ทำให้ผู้ร้องพ้นความรับผิดตามสัญญา ฎีกาข้อนี้ของผู้ร้องจึงฟังไม่ขึ้น และที่ผู้ร้องฎีกาขอให้ลดค่าปรับลงนั้น เห็นว่ายังไม่มีเหตุสมควรที่จะเปลี่ยนแปลงดุลพินิจของศาลชั้นต้น”

พิพากษายืน

Share