คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 927/2485

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้แทนโดยชอบธัมของผู้เยาว์กู้ยืมแทนผู้เยาว์เอาทรัพย์ของผู้เยาว์ไปเปนประกันเงินกู้ไม่จำต้องขออนุญาตต่อสาลดั่งที่บัญญัติไว้ไน ป.พ.พ.ม.1546 เพราะไม่ไช่กรนีที่เอาทรัพย์ของผู้เยาว์ไปไห้กู้ยืม

ย่อยาว

ได้ความว่าจำเลยที่ ๑ อายุ ๑๙ ปีจำเลยที่ ๒ อายุ ๑๕ ปีหยู่ไนความปกครองของจำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ผู้เปนบิดามารดาตลอดมาแต่เดิมเมื่อวันที่ ๒๓ พริสจิกายน ๒๔๗๘ จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ได้ไปทำสัญญาต่อกรมการอำเพอไนนามเปนผู้แทนโดยชอบธัมของจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ กู้เงินโจท ๘๐๐ บาท และได้มอบโฉนดที่ ๔๓๓ ซึ่งมีชื่อจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ เปนเจ้าของไนโฉนดไห้โจทยึดไว้เปนประกันด้วย ต่อมาวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๒ จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ได้ลงลายมือชื่อไนหนังสือหมายเลข ๒ รับรองว่า ได้รู้เห็นยินยอมไห้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ กู้เงินรายนี้จากโจท
สาลชั้นต้นพิจารนาแล้วพิพากสาไห้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ ไช้เงินตามฟ้อง และยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ ๑ ที่ ๒
โจทอุธรณ์ สาลอุธรน์ฟังว่าจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ รู้เห็นยินยอมด้วยไนการกู้เงินรายนี้ ทั้งปรากตตามเอกสารหมายเลข ๒ ว่าได้กู้เงินโจทมาเลี้ยงดูกันไนครัวเรือน จึงพิพากสาไห้จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ รับผิดร่วมด้วย
จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ดีกาว่าตาม ป.พ.พ.ม.๑๕๔๖(๓) บัญญัติว่า การไห้กู้ยืมเงินผู้ปกครองเด็กจะทำมิได้ เว้นแต่สาลจะอนุญาตไนคดีนี้จำเลยที่ ๓ ที่ ๔ มิได้รับอนุญาตจากสาลจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิด
สาลดีกาได้พิเคราะห์ดูป.พ.พ.ม. ๑๕๔๖ แล้วเห็นว่า เมื่อกดหมายบัญญัติไว้ชัดแล้วว่าห้ามแต่ไห้กู้หย่างเดียวที่จะต้องขออนุญาต ถ้าจะไปแปลถึงกู้ก็ต้องขออนุญาตด้วยแล้ว ก็จะขัดกับตัวบทไป เมื่อตามกดหมายจำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ไม่ต้องขออนุญาตสาลและทั้งเจ้าหนี้ไห้กู้ไปโดยสุจริต จำเลยที่ ๑ ที่ ๒ ก็ต้องรับผิดด้วยจึงพิพากสายืนตาม

Share