คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1605/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อเจ้าคณะนครหลวงกรุงเทพธนบุรีได้มีคำสั่งให้ถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาส โดยในคำสั่งระบุชัดว่าให้มีผลบังคับตั้งแต่วันมีคำสั่งเป็นต้นไปนั้นย่อมมีผลบังคับทันที โดยไม่ต้องคำนึงว่าโจทก์จะได้ร้องทุกข์อุทธรณ์คำสั่งหรือไม่ และถือได้ว่าเป็นกรณีที่ไม่มีเจ้าอาวาส ฉะนั้น การที่จำเลยมีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสหลังจากที่ได้มีคำสั่งถอดถอนโจทก์แล้วนั้น จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เจ้าคณะจังหวัดนครหลวงกรุงเทพธนบุรีได้มีคำสั่งลงวันที่ 5กรกฎาคม 2518 ให้ถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดบุญรอดธรรมาราม โจทก์ยื่นคำร้องทุกข์อุทธรณ์คำสั่งอยู่ ในวันนั้นเองจำเลยซึ่งมีอำนาจหน้าที่แต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส โดยเจตนาทุจริตได้ออกคำสั่งแต่งตั้งพระศรีสมโพธิเป็นผู้รักษาการแทนโจทก์ ทั้งที่ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญรอดธรรมารามยังไม่ว่าง เป็นความผิดฐานเจ้าพนักงานปฏิบัติ หน้าที่โดยมิชอบเหตุเกิดที่ตำบลบางนา – บางจาก อำเภอพระโขนง และที่ตำบลวัดสามพระยาอำเภอพระนคร กรุงเทพมหานคร เกี่ยวพันกัน ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

ศาลชั้นต้นตรวจคำฟ้องแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่าตามคำฟ้องฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2518เจ้าคณะนครหลวงกรุงเทพธนบุรีมีคำสั่งถอดถอนโจทก์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบุญรอดธรรมาราม เพราะกระทำความผิด ในวันเดียวกันนั้นจำเลยซึ่งเป็นเจ้าคณะตำบลบางนา – บางจาก ได้มีคำสั่งแต่งตั้งให้พระศรีสมโพธิเป็นผู้รักษาการแทน โจทก์จึงกล่าวหาจำเลยเป็นคดีนี้ว่าปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ซึ่งตามกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2506) ข้อ 45 บัญญัติให้พระสงฆ์ซึ่งถูกผู้บังคับบัญชาสั่งลงโทษฐานละเมิดจริยา ต้องปฏิบัติตามทันที ฉะนั้น คำสั่งถอดถอนโจทก์จึงมีผลบังคับทันทีโดยไม่ต้องคำนึงว่าโจทก์ได้ร้องทุกข์อุทธรณ์คำสั่งนั้นหรือไม่ และถือได้ว่าเป็นกรณีไม่มีเจ้าอาวาสตามความในมาตรา 39 แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 การที่จำเลยมีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสจึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยชอบแล้ว

พิพากษายืน

Share