แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 หุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าจากโจทก์ในนามของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 โจทก์ส่งไปให้ตั้งแต่ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ยังมิได้ จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า การตั้งห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 ได้เกิดขึ้นก่อนที่จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1079 ต้องถือว่าห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญอยู่จนกว่าจะได้จดทะเบียน ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วน ดังนั้น จำเลยที่ 2 ผู้เป็นหุ้นส่วนจึงต้องรับผิดในบรรดาหนี้สินของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ 1 อันมีอยู่ต่อโจทก์ก่อนที่ได้จดทะเบียน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยซื้อกล่องกระดาษไปจากโจทก์รวมราคา ๔๑,๒๑๕.๘๐ บาท แล้วไม่ชำระเงิน จึงขอให้จำเลยชำระ
จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ ๑ เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด จำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ จำเลยไม่ได้ซื้อกล่องกระดาษตามฟ้องไปจากโจทก์ โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ส่งกล่องกระดาษให้กับร้าน ย. ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ย. จำเลยที่ ๑ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ขณะโจทก์ส่งสินค้าให้จำเลย จำเลยที่ ๒ เริ่มใช้ชื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่ ๑ แล้ว แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ถือได้ว่าก่อนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ ๑ อยู่ในฐานะห้างหุ้นส่วนสามัญ จำเลยที่ ๒ ผู้เป็นหุ้นส่วนต้องรับผิดต่อโจทก์ จำเลยที่ ๑ เริ่มสภาพห้างหุ้นส่วนจำกัดภายหลังที่โจทก์ส่งสินค้าไปยังจำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องรับผิด พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยที่ ๒ ชำระเงินแก่โจทก์ตามฟ้อง นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๒ ซึ่งเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ ๑ ได้สั่งซื้อกล่องกระดาษจากโจทก์ในนามของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ ๑ โจทก์ส่งกล่องกระดาษไปให้ตั้งแต่ห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ ๑ ยังมิได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล การตั้งห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ ๑ เกิดขึ้นก่อนที่จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล วินิจฉัยว่า ห้างหุ้นส่วนจำกัดนั้น แม้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๗๘ จะบังคับว่าต้องจดทะเบียน แต่มาตรา ๑๐๗๙ ก็บัญญัติไว้ว่า ถ้ายังมิได้จดทะเบียนอยู่ตราบใด ให้ถือว่าเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ ซึ่งผู้เป็นหุ้นส่วนทั้งหมดย่อมต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนโดยไม่มีจำกัดจำนวน จนกว่าจะได้จดทะเบียน ฉะนั้น จำเลยที่ ๒ ผู้เป็นหุ้นส่วนจึงต้องรับผิดในบรรดาหนี้สินของห้างหุ้นส่วนจำเลยที่ ๑ อันมีอยู่ก่อนที่ได้จดทะเบียน
พิพากษายืน