แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำให้การของจำเลยต่อสู้เพียงว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท คดีจึงมีประเด็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทหรือไม่เท่านั้น จำเลยมิได้ต่อสู้ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าจนหมดสิทธิในที่พิพาทและที่พิพาทได้ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ฉะนั้น ปัญหาที่ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่พิพาทหรือปล่อยให้ที่พิพาทรกร้างว่างเปล่าจนตกเป็นของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดิน จึงไม่เป็นประเด็นในคดี ศาลชั้นต้นยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาวินิจฉัย จึงเป็นการชี้ขาดตัดสินนอกประเด็น
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินที่ถูกเวนคืนเพื่อประโยชน์ในการศึกษาของจำเลยซึ่งต้องใช้ค่าที่ดินให้แก่โจทก์ ขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้เงิน 125,490 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินพิพาท จำเลยไม่เคยตกลงจะชดใช้ราคาที่ดินพิพาทตามราคาในฟ้องให้แก่โจทก์
วันชี้สองสถาน โจทก์รับว่าราคาค่าทดแทนที่พิพาทรวม 123,661 บาท ตามที่จำเลยต่อสู้ และโจทก์ขอสละเรื่องดอกเบี้ย
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า โจทก์ได้ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ในที่พิพาทจนตกเป็นของรัฐก่อนทางราชการเวนคืน ไม่มีสิทธิรับเงินค่าทดแทน พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ศาลชั้นต้นชี้ขาดตัดสินนอกประเด็น พิพากษากลับให้จำเลยใช้เงินค่าทดแทน 123,661 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยได้ให้การต่อสู้คดีไว้แล้วว่าโจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่ดินแปลงพิพาท ตามที่ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นไว้ ซึ่งรวมอยู่ในประเด็นที่ว่าโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องนั้น คำให้การของจำเลยดังกล่าวต่อสู้เพียงว่า โจทก์ไม่ใช่เจ้าของที่พิพาท คดีจึงมีประเด็นว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทหรือไม่เท่านั้น จำเลยมิได้ต่อสู้เลยว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์หรือปล่อยให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าจนหมดสิทธิในที่พิพาทและที่พิพาทนั้นได้ตกเป็นของแผ่นดินแล้ว ฉะนั้น ปัญหาที่ว่าโจทก์ทอดทิ้งไม่ทำประโยชน์ ในที่พิพาทหรือปล่อยให้ที่พิพาทรกร้างว่างเปล่าจนที่พิพาทตกเป็นของแผ่นดินตามประมวลกฎหมายที่ดินนั้น จึงไม่เป็นประเด็นในคดี แม้จำเลยเองก็คงเข้าใจว่าไม่มีประเด็นในเรื่องนี้จึงนำสืบเพียงว่าจำเลยไม่ทราบว่านายแคล้ว โพธิ์มั่น โจทก์ กับนายแคล้ว ทายะทาน ตามที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 44 ลงวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2515 จะเป็นบุคคลคนเดียวกันหรือไม่ ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์จะมีเจตนาสละการครอบครองที่พิพาทด้วยการทอดทิ้งให้เป็นที่รกร้างว่างเปล่าหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้เพื่อเป็นประเด็นในการนำสืบ การที่ศาลชั้นต้นยกประเด็นดังกล่าวขึ้นมาวินิจฉัย จึงเป็นการชี้ขาดตัดสินนอกประเด็นตามที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษามานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้นแต่ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้นนั้น เห็นว่าเรื่องดอกเบี้ยนี้โจทก์ไม่ติดใจเรียกร้องเอากับจำเลยแล้ว จึงไม่ควรให้จำเลยรับผิดเรื่องดอกเบี้ยอีก
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะไม่ให้จำเลยชำระดอกเบี้ยแก่โจทก์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์สำหรับค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ