แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ทำสัญญาตกลงกับจำเลย ให้จำเลยสร้างโรงภาพยนตร์และตึกแถวลงในที่ดินของโจทก์ด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลยเองโดยโจทก์ต้องยอมให้จำเลยเช่ามีกำหนด 20 ปี จำเลยผิดสัญญาในการก่อสร้างตามที่ตกลงกันไว้ โจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยโดยชอบแล้ว ดังนี้ สัญญาและข้อผูกพันต่าง ๆ ในสัญญาก่อสร้างต้องสิ้นสุดลงจำเลยจึงไม่มีสิทธิที่จะเช่าหรือครอบครองโรงภาพยนตร์และตึกแถวตามสัญญานั้นอีกต้องคืนที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวให้โจทก์ส่วนโจทก์ก็ต้องชดใช้ค่าก่อสร้างอันเป็นผลงานที่จำเลยสร้างลงไปให้แก่จำเลยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน ได้ทำสัญญาให้จำเลยสร้างโรงภาพยนตร์ 1 โรง และตึกแถว 15 คูหา ลงในที่ดินของโจทก์ตามแบบแปลน เมื่อสร้างเสร็จโจทก์ยอมให้จำเลยเช่าโรงภาพยนตร์และตึกแถวมีกำหนด 20 ปี ต่อมาจำเลยก่อสร้างโรงภาพยนตร์และตึกแถวผิดจากสัญญาและแบบแปลน ทั้งสร้างล่าช้ากว่าที่กำหนดไว้ โจทก์บอกเลิกสัญญากับจำเลยแล้ว จึงขอให้บังคับจำเลยรื้อถอนโรงภาพยนตร์และตึกแถวออกไป จากที่ดินโจทก์ ให้จำเลยส่งมอบที่ดินในสภาพที่ดีดังเดิม ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องอีกกับให้ใช้ค่าเสียหาย
จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้ว พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญาและโจทก์บอกเลิกสัญญาแล้วกรณีต้องนำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 มาปรับแก่คดีกล่าวคือคู่สัญญาแต่ละฝ่ายจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิม บรรดาการงานอันได้กระทำและให้เป็นการยอมให้ใช้ทรัพย์นั้น การที่จะชดใช้คืนให้ใช้เงินตามควรค่าแห่งการนั้น ๆ แต่ทั้งนี้ไม่กระทบกระทั่งถึงสิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย คดีนี้จำเลยได้ก่อสร้างโรงภาพยนตร์และตึกแถวลงในที่ดินของโจทก์เสร็จแล้ว การที่จะให้คู่สัญญากลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมได้ก็ด้วยการที่จำเลยต้องคืนที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์ และโจทก์ต้องชดใช้ค่าก่อสร้างอันเป็นผลงานที่จำเลยได้สร้างลงไปแล้วเท่านั้น จะให้คืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมโดยให้จำเลยต้องรื้อโรงภาพยนตร์และตึกแถวออกไปโดยโจทก์มิได้ชดใช้ค่าก่อสร้างอันเป็นผลงานที่จำเลยทำลงไปแล้วให้จำเลยไม่ได้ เพราะเท่ากับจำเลยไม่ได้คืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมเนื่องจากต้องเสียหายแต่ฝ่ายเดียว ส่วนคำขอที่ให้ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินนี้ต่อไปนั้นวินิจฉัยว่า เมื่อโจทก์ได้ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญาแล้ว สัญญาและข้อผูกพันต่าง ๆ ในสัญญาก่อสร้างก็ต้องสิ้นสุดกันไปด้วย จำเลยไม่มีสิทธิเช่าหรือครอบครองโรงภาพยนตร์และตึกแถวตามที่กำหนดไว้ในสัญญาก่อสร้างนั้นอีก
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ห้ามจำเลยและบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของโจทก์