คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1792/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การถอนคำร้องทุกข์ที่จะทำให้คดีระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) นั้นต้องเป็นการถอนโดยเจตนาที่จะไม่เอาความแก่จำเลยอีกต่อไป แต่การที่โจทก์ขอถอนคำร้องทุกข์โดยเหตุที่โจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว ไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานหลักฐานของโจทก์อีก จึงคงระงับไปแต่เฉพาะเรื่องการร้องทุกข์ ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลไว้แล้วนั้นหาระงับไปไม่ ศาลย่อมดำเนินคดีต่อไปได้ เสมือนว่าไม่มีการร้องทุกข์มาก่อน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกได้บุกรุกเข้าไปในที่ดินของโจทก์และร่วมกันหว่านเม็ดข้าวเปลือกลงในที่ดินดังกล่าว แล้วใช้รถไถนาไถกลบ ทำให้พืชงาของโจทก์ผู้เป็นกสิกรถูกทำลายเสียหายหมด ทั้งนี้เพื่อจำเลยกับพวกจะยึดถือครอบครองที่ดินทั้งหมดของโจทก์ การกระทำของจำเลยดังกล่าวเป็นการละเมิดทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358, 359, 362, 365 ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องกับที่ดินของโจทก์และให้ใช้ค่าเสียหายด้วย

ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องในคดีส่วนอาญาแล้วให้ประทับฟ้องโจทก์

จำเลยให้การและแก้คำให้การว่า จำเลยไม่ได้กระทำผิด โจทก์ไม่ใช่ผู้เสียหาย ที่พิพาทเป็นของจำเลยและภริยา ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 359 ประกอบด้วยมาตรา 358 และมาตรา 365 ประกอบด้วยมาตรา 362 ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์ตามมาตรา 359 จำคุก 6 เดือน ฐานบุกรุกตามมาตรา 365 จำคุก 6 เดือน รวมจำคุก 1 ปี ห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องที่พิพาทของโจทก์ต่อไป และให้ใช้ค่าเสียหาย 4,000 บาท

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไถที่พิพาทแล้วหว่านข้าวเพื่อถือการครอบครองที่พิพาทของโจทก์ เป็นเหตุให้พืชงาของโจทก์เสียหาย และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ได้ถอนคำร้องทุกข์แล้วตามรายงานเบ็ดเสร็จประจำวันของเจ้าพนักงานตำรวจลงวันที่ 14มิถุนายน 2519 คดีจึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2) นั้น ว่าการถอนคำร้องทุกข์ที่จะทำให้คดีระงับไปตามมาตราที่จำเลยอ้าง ต้องเป็นการถอนโดยเจตนาที่จะไม่เอาความผิดจำเลยต่อไปแต่คดีนี้โจทก์ขอถอนคำร้องทุกข์อ้างว่าไม่ประสงค์ให้ทำการสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง และได้ถอนคำร้องทุกข์หลังจากโจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลเป็นคดีนี้แล้ว 5 วัน จึงฟังได้ว่าเหตุที่โจทก์ถอนคำร้องทุกข์ก็เนื่องจากโจทก์ได้ยื่นฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว ไม่ประสงค์จะให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวนพยานหลักฐานของโจทก์ต่อไป จึงคงระงับแต่เฉพาะเรื่องการร้องทุกข์ ส่วนคดีที่โจทก์ฟ้องจำเลยต่อศาลแล้ว ศาลย่อมดำเนินคดีไปดังเช่นคดีที่โจทก์ฟ้องโดยไม่มีการร้องทุกข์มาก่อน คดีของโจทก์ไม่ระงับไป

พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 365, 359 แต่เป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทตามมาตรา 90ให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 จำคุก 6 เดือนห้ามจำเลยและบริวารเกี่ยวข้องที่พิพาทของโจทก์ ให้ใช้ค่าเสียหาย 4,000บาท ฯลฯ

Share