คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9502/2542

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

การสื่อสารแห่งประเทศไทย โจทก์กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยตกลงร่วมมือกันให้บริการโทรศัพท์แก่ผู้เช่าโทรศัพท์ โดยแยกหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศให้เป็นของโจทก์ ซึ่งจำเลยในฐานะผู้เช่าโทรศัพท์จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยมีสิทธิใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศของโจทก์ผ่านทางเครื่องโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้ โดยจำเลยต้องรับผิดชำระค่าใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่โจทก์ตามระเบียบการใช้โทรศัพท์ดังกล่าว ซึ่งระเบียบนี้องค์การโทรศัพท์ก็ได้พิมพ์ลงไว้ในสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อแจกให้จำเลยผู้เช่าโทรศัพท์ได้ทราบแล้ว ถือได้ว่ามีการเสนอให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศตามเงื่อนไขในระเบียบดังกล่าวเมื่อมีการใช้โทรศัพท์ระหว่างประเทศจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย อันมีลักษณะเป็นการขอใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศจากโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น ก็เท่ากับจำเลยตกลงสนองรับเข้าทำสัญญาขอใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศกับโจทก์ จำเลยจึงเป็นคู่สัญญาใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศกับโจทก์และมีหน้าที่ต้องรับผิดชำระค่าใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่โจทก์ตามระเบียบนั้น เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าบริการดังกล่าวแก่โจทก์อันเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ตามสัญญาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยมีข้อตกลงให้โจทก์เป็นผู้เรียกเก็บค่าใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านชุมสายโทรศัพท์ของโจทก์จากผู้เช่าเครื่องโทรศัพท์จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยโดยไม่คำนึงว่าผู้ใดจะเป็นผู้ใช้บริการ ทั้งนี้โจทก์ได้แจ้งให้ผู้เช่าเครื่องโทรศัพท์ทราบระเบียบการใช้บริการและอัตราค่าใช้บริการแล้ว จำเลยเป็นผู้เช่าโทรศัพท์หมายเลข 434-9352 จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเมื่อระหว่างวันที่ 25 มกราคม 2536 ถึงวันที่ 26 มีนาคม 2536 มีการใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศจากโทรศัพท์หมายเลขที่จำเลยเช่าระหว่างประเทศไทยกับประเทศสาธารณรัฐสิงค์โปร์ และไต้หวัน รวม 52 ครั้ง เป็นค่าใช้บริการทั้งสิ้น11,770 บาท จำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดชำระค่าใช้บริการดังกล่าวให้แก่โจทก์โจทก์ทวงถามแล้ว จำเลยไม่ชำระ ขอให้บังคับจำเลยชำระเงิน 11,770 บาทพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยให้การว่าจำเลยทำสัญญาเช่าโทรศัพท์หมายเลข 434-9352กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ไม่เคยทำสัญญากับโจทก์ไม่เคยยื่นเรื่องขอโทรศัพท์ออกต่างประเทศที่อยู่ในข่ายอำนาจของโจทก์ จำเลยไม่ใช่คู่สัญญากับโจทก์ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 11,770 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ยุติว่า จำเลยทำสัญญาเช่าโทรศัพท์หมายเลข 434-9352 จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยซึ่งตามสัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยเอกสารหมาย จ.7 ข้อ 2 กำหนดว่า จำเลยผู้เช่ายินยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขระเบียบ ข้อบังคับขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยผู้ให้เช่าที่เกี่ยวกับการให้บริการโทรศัพท์ และปรากฏว่าองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้ทำข้อตกลงกับโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.4 ให้โจทก์รับผิดชอบการให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ และดำเนินคดีแพ่งแก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งโจทก์ได้ออกระเบียบในการใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศจากเครื่องโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย ให้ผู้ใช้บริการสามารถใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศโดยระบบเรียกเลขหมายปลายทางผ่านระบบเรียกอัตโนมัติหรือระบบเรียกผ่านพนักงานสลับสายจากเครื่องโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้โดยผู้เช่าโทรศัพท์จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยต้องรับผิดชอบชำระค่าบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศซึ่งใช้บริการจากเครื่องโทรศัพท์ดังกล่าวให้แก่โจทก์ ไม่ว่าบุคคลใดจะเป็นผู้พูดโทรศัพท์ก็ตาม และองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้พิมพ์ระเบียบดังกล่าวลงในสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์แจกให้ผู้เช่าโทรศัพท์ทราบทุกปีแล้วปรากฏว่ามีการใช้โทรศัพท์ระหว่างประเทศจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยคิดเป็นค่าบริการจำนวน 11,770 บาทแต่จำเลยไม่ชำระค่าบริการดังกล่าวแก่โจทก์

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยที่ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาขึ้นมาเพียงข้อเดียวว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยเพราะจำเลยไม่ใช่คู่สัญญากับโจทก์หรือไม่ เห็นว่า ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวข้างต้นแสดงว่าโจทก์กับองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยตกลงร่วมมือกันให้บริการโทรศัพท์แก่ผู้เช่าโทรศัพท์ โดยแยกหน้าที่ความรับผิดชอบในการบริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศให้เป็นของโจทก์ ซึ่งจำเลยในฐานะผู้เช่าโทรศัพท์จากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยมีสิทธิใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศของโจทก์ผ่านทางเครื่องโทรศัพท์ที่เช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้ โดยจำเลยต้องรับผิดชำระค่าใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่โจทก์ตามระเบียบการใช้โทรศัพท์ดังกล่าว ซึ่งระเบียบนี้องค์การโทรศัพท์ก็ได้พิมพ์ลงไว้ในสมุดรายนามผู้ใช้โทรศัพท์เพื่อแจกให้จำเลยผู้เช่าโทรศัพท์ได้ทราบแล้ว ถือได้ว่ามีการเสนอให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศตามเงื่อนไขในระเบียบดังกล่าว เมื่อมีการใช้โทรศัพท์ระหว่างประเทศจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยเช่าจากองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย อันมีลักษณะเป็นการขอใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศจากโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบตามระเบียบดังกล่าวข้างต้น ก็เท่ากับจำเลยตกลงสนองรับเข้าทำสัญญาขอใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศกับโจทก์ ดังนี้ จำเลยจึงเป็นคู่สัญญาใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศกับโจทก์ จำเลยย่อมมีหน้าที่ต้องรับผิดชำระค่าใช้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศแก่โจทก์ตามระเบียบนั้น เมื่อจำเลยไม่ชำระค่าบริการดังกล่าวแก่โจทก์อันเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ตามสัญญาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้องจำเลยให้ชำระหนี้ได้”

พิพากษายืน

Share