คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1754/2527

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คดีขับรถชนกันโดยประมาทมีผู้รับอันตรายสาหัส เมื่อจำเลยเป็นพนักงานของส่วนราชการ ได้ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญผู้เสียหายเป็นที่พอใจ ไม่ติดใจเอาความ ดังนี้ศาลฎีการอการลงโทษให้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 157 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุกจำเลยที่ 1 3 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 6 เดือน และปรับ 4,000 บาท จำเลยที่ 1 ยังมีความผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 42, 64 อีกกระทงหนึ่ง ปรับ 500 บาท รวมโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 500 บาท จำเลยที่ 2 รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 3 เดือน ปรับ 2,000 บาท จำเลยที่ 2 ได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่ผู้เสียหาย ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ ทั้งจำเลยเป็นข้าราชการ ให้รอการลงโทษมีกำหนด 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา โดยได้รับอนุญาตให้ฎีกาในเรื่องดุลพินิจในการกำหนดโทษ

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้จำคุกจำเลยที่ 1 เพียง 3 เดือน ปรับ 500 บาท ได้ความตามฟ้องและทางพิจารณาว่า จำเลยที่ 1 เป็นพนักงานของสำนักงานเร่งรัดพัฒนาชนบท ภายหลังศาลอุทธรณ์พิพากษาแล้ว จำเลยที่ 1 ได้ชดใช้ค่ารักษาพยาบาลและค่าทำขวัญแก่ผู้เสียหาย 12,000 บาท ผู้เสียหายแถลงว่าพอใจ ไม่ติดใจเอาความแก่จำเลยที่ 1 อีกต่อไป ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 เคยกระทำความผิดมาก่อน เมื่อคำนึงถึงอัตราโทษที่จำเลยที่ 1 จะได้รับประกอบกับอาชีพของจำเลยที่ 1 และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว สมควรให้โอกาสแก่จำเลยที่ 1 เพื่อกลับตัวไม่กระทำผิดอีก ควรรอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 ได้แต่ให้วางโทษปรับ ฎีกาจำเลยที่ 1 ฟังขึ้นบางส่วน

พิพากษาแก้เป็นว่า ให้รอการลงโทษจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 และให้ปรับจำเลยที่ 1 ในความผิดตามมาตรา 300 เป็นเงิน 3,000 บาท รวมเป็นปรับ 3,500 บาท ค่าปรับบังคับตามมาตรา 29, 30 นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์”

Share