คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1620/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ระบุในคำฟ้องว่า ในการที่จำเลยเป็นเจ้าของอาคารห้องแถวรายนี้ จำเลยไม่ได้ทำฝากั้นห้องทางด้านหลังโดย(จำเลย) ใช้ตึกศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องของจำเลย และตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ ก็ได้ขอให้จำเลยรื้อห้องแถว หรือถ้าขัดข้องจะบังคับเช่นนั้นไม่ได้ ก็ขอบังคับไม่ให้จำเลยใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้องของจำเลย ดังนี้ การที่โจทก์ขอให้บังคับไม่ให้ใช้ฝาผนังศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องแถวด้านหลังของจำเลยนั้น เป็นประเด็นข้อหนึ่งที่โจทก์กล่าวมาในฟ้อง ซึ่งถ้าศาลเห็นว่าจำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น ศาลก็จำต้องมีคำบังคับในเรื่องนี้ด้วย และคำบังคับในกรณีเช่นนี้อาจเป็นการสั่งให้จำเลยจัดการกั้นฝาห้องของจำเลยเสีย เพื่อให้พ้นจากสภาพใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้อง หรือถ้าจำเลยไม่ทำก็อาจให้รื้อสิ่งปลูกสร้างส่วนข้างหลังออกตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้

ย่อยาว

คดีนี้มาสู่ศาลฎีกา ฉะเพาะฎีกาข้อ ๓ ของโจทก์ว่า ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์บางข้อคือ “ก.โจทก์อุทธรณ์ว่าตามคำพิพากษาศาลเดิมพิพากษาว่า ข้อที่โจทก์ขอให้ทำฝากั้นห้องของจำเลยเป็นสิทธิของจำเลย บังคับไม่ได้นั้น ในข้อนี้เห็นว่า คำพิพากษาศาลเดิมคลาดเคลื่อนจากข้อกฎหมาย เพราะคำขอของโจทก์ไม่ได้ขอให้จำเลยทำฝากั้นห้องของจำเลยตามฟ้องของโจทก์กล่าวว่าการกระทำของจำเลยในบัดนี้ ได้มีห้องแถวปลูกติดอยู่กับฝาผนังตึกของศาลเจ้า เมื่อการกระทำของจำเลย จำเป็นต้องใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าว การเสียหายย่อมติดไปด้วย ฉะนั้นในข้อนี้โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยได้ การที่จำเลยจะบังคับ หรืองดเว้นการใช้ฝาผนังตึกศาลจ้าวอย่างไรนั้น แล้วแต่จำเลยโจทก์หาได้บังคับขอให้ทำฝาไม่
โจทก์จึงฎีกาขอให้ศาลฎีกาวินิจฉัยและพิพากษาในข้อนี้ ให้โจทก์ด้วย
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ระบุในคำฟ้องว่า “ในการที่จำเลยเป็นเจ้าของอาคารห้องแถวรายนี้ จำเลยไม่ได้ทำฝากั้นห้องด้านหลัง โดย(จำเลย) ใช้ตึกศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องของจำเลย และตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ก็ได้ขอให้จำเลยรื้อห้องแถว หรือถ้าขัดข้อง จะบังคับเช่นนั้นไม่ได้ ก็ขอบังคับไม่ให้จำเลยใช้ฝาผนังตัวตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้องของจำเลย ศาลฎีกาเห็นว่าการที่โจทก์ขอให้บังคับจำเลยไม่ให้ใช้ฝาผนังตัวตึกศาลจ้าวเป็นฝากั้นห้องแถวด้านหลังของจำเลยนั้นเป็นประเด็นข้อหนึ่งที่โจทก์กล่าวมาในฟ้อง ซึ่งถ้าหากศาลเห็นว่า จำเลยไม่มีอำนาจที่จะทำเช่นนั้น ศาลก็จำต้องมีคำบังคับในเรื่องนี้ด้วย และคำบังคับในกรณีเช่นนี้ อาจเป็นการสั่งให้จำเลยจัดการกั้นฝาห้องของจำเลยเสีย เพื่อให้พ้นจากสภาพใช้ผนังตึกศาลจ้าวเป็นฝาห้อง หรือถ้าจำเลยไม่ทำก็อาจให้รื้อสิ่งปลูกสร้างส่วนข้างหลังออกตามที่ศาลเห็นสมควรก็ได้ แต่ในประเด็นข้อนี้ ศาลชั้นต้นตัดสินแต่เพียงว่า “ข้อที่โจทก์ขอให้จำเลยทำฝาห้องของจำเลยต่างหากนั้น เป็นสิทธิของจำเลย บังคับไม่ได้” ซึ่งศาลอุทธรณ์มิได้ยกขึ้นวินิจฉัย
พิพากษายกคำพิพากษาศาลล่างฉะเพาะประเด็นที่กล่าวข้างต้น ให้ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่

Share