คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1955/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ข้อความในเอกสารเป็นแต่เพียงการคิดบัญชีแสดงหนี้สิน ที่มีอยู่ต่อกันระหว่างโจทก์กับ ส. ผู้ตาย และเป็นหนังสือนำส่งเช็คซึ่ง ส. ออกสั่งจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามที่ เป็นหนี้กันอยู่ และที่ขอแลกเงินสดจากโจทก์ไปอีกเท่านั้น หามีข้อความตอนใดแสดงว่า ส. ได้กู้ยืมเงินโจทก์ไม่ เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่หนังสืออันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม คดีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงฟังได้ว่านายสิน จึงพานิชซึ่งเป็นสามีจำเลยที่ 1 และเป็นบิดาจำเลยที่ 2 ได้ออกเช็คตามฟ้องให้โจทก์และได้เขียนหนังสือฉบับหมาย จ.7 มาถึงโจทก์

มีปัญหาจะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า เอกสารหมาย จ.7 เป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมหรือไม่

พิเคราะห์แล้ว ความในเอกสารฉบับนี้มีว่า เล็กที่รัก 1. ได้ส่งใบมอบอำนาจ 1 ใบ (ช่วยกรอกรายละเอียด) 2. เช็คที่ตีค้างคุณ 115,803 บาท (ต่อไปขอคิดร้อยละ 2) กรุณาฝากบังหยาไปด้วย 1. เงินคงเหลือ 5,358 บาท 2. ขอเปลี่ยนเช็ค 2,000 บาท รวม 7,385 บาท (เพราะส่งค่าสลากไม่พอจริง ๆ ) เช็คที่เหลือจากคุณกรุณาส่งคืนด้วย ลงชื่อ ส. จึงพานิช เห็นว่าข้อความในเอกสารดังกล่าวเป็นแต่เพียงการติดบัญชีแสดงหนี้สินที่มีอยู่ต่อกันระหว่างโจทก์กับนายสิน และเป็นหนังสือนำส่งเช็คซึ่งนายสินออกสั่งจ่ายเงินเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์ตามที่เป็นหนี้กันอยู่ และที่ขอแลกเงินสดจากโจทก์ไปอีกเท่านั้น หามีข้อความตอนใดแสดงว่านายสินได้กู้ยืมเงินโจทก์ไม่ เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่หนังสืออันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืม คดีโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องร้องบังคับคดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653”

พิพากษายืน

Share