คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 962/2510

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พฤติการณ์ที่ถือว่าเป็นการป้องกันชีวิตที่พอสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่านายบุญเรือน ศิริพิณ โดยใช้ปืนสั้นยิงขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และริบอาวุธปืนของกลาง

จำเลยให้การว่า ยิงเพื่อป้องกันตัว เพราะผู้ตายใช้มีดไล่แทง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ลงโทษจำคุก 20 ปี ริบปืนของกลาง

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกาต่อมา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยยิงผู้ตาย เพราะผู้ตายจะเข้าทำร้ายจำเลยก่อน แม้จะมีผู้ร้องห้ามแล้วผู้ตายก็ไม่ฟัง จำเลยจึงยิงเอา แล้วผู้ตายหลบไปบังต้นมะขามส่วนจำเลยถอยไปทางต้นมะพร้าวข้างคู แล้วผู้ตายกลับถือมีดวิ่งแฉลบไปมาทางจำเลย พอไปห่างจำเลยประมาณ 2-3 วา จำเลยก็ยิงผู้ตายอีก 2 หรือ 3 นัด ถึงแก่ความตายดังนี้

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยยิงผู้ตายในตอนแรกนั้นเป็นการป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ เพราะฝ่ายผู้ตายมีมีดจะเข้าทำร้ายจำเลยก่อนในขณะที่อยู่ประจันหน้ากันไม่มีทางหลีกเลี่ยง ส่วนตอนหลังนั้นแม้ว่าจำเลยจะยิงไป 3 นัดแล้วผู้ตายก็ยังไม่หยุดยั้ง กลับถือมีดเข้าหาจำเลยอีก ตอนนี้เป็นเหตุการณ์ฉุกละหุกเฉพาะหน้า ภาวะเช่นนี้จำเลยย่อมไม่มีเวลาจะคิดเป็นอย่างอื่นนอกจากจะป้องกันตัวให้พ้นจากการถูกทำร้าย และระยะที่ผู้ตายวิ่งเข้ามานั้นเป็นระยะใกล้ ถ้าจำเลยไม่ยิงไปก่อนก็อาจถูกผู้ตายทำร้ายได้ เห็นว่าเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68

พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์ อาวุธปืนของกลางคืนจำเลย

Share