คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1140/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์ร่วมมีข้อโต้แย้งกันเรื่องแนวเขตรั้วที่จำเลยจะสร้างขึ้นใหม่ ขณะเจรจายังไม่ตกลงกันจำเลยได้กล่าวถ้อยคำต่อหน้าเจ้าพนักงานตำรวจผู้มาทำการไกล่เกลี่ยว่าที่ต้องสร้างรั้วใหม่ เพราะไอ้คนนี้ (หมายถึงโจทก์ร่วม) มันเข้าไปข่มขืนคนในบ้านฉัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่วงเลยมาเป็นเวลานาน 2 ปีเศษแล้วดังนี้ การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 329

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2519 เวลาประมาณ 18 นาฬิกาขณะที่จำเลยกำลังคุมคนงานซ่อมรั้วกั้นเขตระหว่างบ้านจำเลยกับบ้านบิดามารดา นายกษิต จำเลยบังอาจกล่าวคำหมิ่นประมาทใส่ความนายกษิตพร้อมกับชี้หน้าว่า “ที่ต้องสร้างรั้วใหม่ก็เพราะไอ้คนนี้มันเข้ามาข่มขืนคนใช้ในบ้านฉัน”โดยกล่าวต่อหน้าร้อยตำรวจตรีพงษ์สิทธิ นายอนันต์ และผู้อื่นอีกหลายคนโดยประการที่น่าจะทำให้นายกษิตเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นถูกเกลียดชัง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326

จำเลยให้การปฏิเสธ

นายกษิตผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลอนุญาต

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงตามศาลชั้นต้นว่า ก่อนเกิดเหตุคดีนี้ โจทก์ร่วมเคยเข้าไปในบ้านของจำเลยเพื่อจะข่มขืนกระทำชำเราหญิงรับใช้ หลังจากนั้นราว 2 ปี คือเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2519 ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุคดีนี้ จำเลยและสามีจะทำรั้วบ้านใหม่ เกิดโต้แย้งเรื่องเขตแนวรั้วกับโจทก์ร่วมและบิดามารดาของโจทก์ร่วม ร้อยตำรวจตรีพงษ์สิทธิเจ้าหน้าที่ตำรวจไกล่เกลี่ยให้ตกลงกันจำเลยจึงกล่าวต่อหน้าร้อยตำรวจตรีพงษ์สิทธิว่าที่ต้องสร้างรั้วใหม่เพราะไอ้คนนี้ (หมายถึงโจทก์ร่วม) มันเข้าไปข่มขืนคนใช้ในบ้านฉัน ดังนี้ เห็นว่าการที่ฝ่ายจำเลยและฝ่ายโจทก์มีข้อโต้แย้งกันเรื่องแนวเขตรั้ว แต่จำเลยกลับนำเรื่องราวดังที่กล่าวมาแล้วซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ล่วงเลยมานาน 2 ปีเศษขึ้นมาเป็นเหตุกล่าวประจานโจทก์ร่วมต่อหน้าตำรวจ (โดยจำเลยไม่มีสิทธิที่จะกล่าวเช่นนั้นได้) การกระทำของจำเลยจึงเป็นการใส่ความโจทก์ร่วมต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์ร่วมเสียชื่อเสียงถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง อันเป็นความผิดตามฟ้อง ที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่าจำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 329 ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย

พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 326

Share