คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 234/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อสัญญาเช่าซื้อระงับไป เพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย ผู้เช่าซื้อไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาเช่าซื้อระงับไปแล้ว
ตามสัญญาเช่าซื้อระบุว่า ผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดต่อการสูญหายและเสียหายทุกชนิดอันเกิดขึ้นแก่ยานพาหนะ(รถยนต์ที่เช่าซื้อ) ก็เป็นเรื่องที่โจทก์ผู้ให้เช่าซื้อจะต้องให้จำเลยทั้งสองผู้เช่าซื้อและผู้ค้ำประกันใช้ราคาหรือค่าเสียหายของรถยนต์ที่เช่าซื้อ โจทก์จะฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาระงับไปเพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์โดยจะชำระค่าเช่าซื้อ 24 งวด ๆ ละ 1,587 บาทต่อเดือน เริ่มชำระงวดแรกวันที่ 20 พฤศจิกายน 2516 งวดต่อ ๆ ไปทุกวันที่ 20 ของเดือนจนกว่าจะชำระเสร็จ จำเลยที่ 2 ได้เข้าทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ของจำเลยที่ 1และยอมรับผิดต่อโจทก์อย่างลูกหนี้ร่วมจำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อให้โจทก์เพียงงวดเดียวแล้วผิดสัญญาค้างชำระค่าเช่าซื้อตลอดมาจนวันที่ 25 เมษายน2518 โจทก์ได้รับรถยนต์ที่เช่าซื้อคืนจากจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 คงค้างชำระค่าเช่าซื้ออีก 26,979 บาท ขอให้จำเลยทั้งสองร่วมกันหรือแทนกันชำระเงินที่กล่าวแล้วพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินให้โจทก์เสร็จ

จำเลยทั้งสองให้การว่า จำเลยที่ 1 ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์และจำเลยที่ 2 ทำสัญญาค้ำประกันหลังจากจำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้องวดแรกแล้ว และยังไม่ถึงเวลาชำระงวดที่ 2 รถยนต์ที่เช่าซื้อถูกคนร้ายลักไป จำเลยที่ 1ติดตามจนพบและนำมอบคืนให้โจทก์เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2518 โจทก์จำเลยตกลงกันว่าจะไม่เรียกร้องค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระจากจำเลย ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า หลังจากทำสัญญาเช่าซื้อกันแล้วรถยนต์ที่เช่าซื้อถูกคนร้ายลัก สัญญาเช่าซื้อระงับไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 657 ประกอบด้วยมาตรา 572 จำเลยไม่ต้องรับผิดในค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาเช่าซื้อระงับไปแล้ว พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่ารถยนต์ที่เช่าซื้อถูกคนร้ายลักไปเมื่อวันที่ 22กุมภาพันธ์ 2517 และจำเลยที่ 1 ค้างชำระค่าเช่าซื้อก่อนแล้ว 3 งวดติดต่อกันแม้สัญญาเช่าซื้อจะระงับเพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อถูกคนร้ายลัก แต่จำเลยจะต้องรับผิดในความสูญหายของรถยนต์ที่เช่าซื้อ ตามสัญญาข้อ 3 ก. และรับผิดชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระหรือค่าเสียหายใด ๆ เนื่องจากการผิดสัญญาตามสัญญาข้อ 5 ก. พิจารณาถึงยอดเงินค่าเช่าซื้อที่จำเลยที่ 1 ค้างชำระตามฟ้องกับราคารถยนต์ที่โจทก์นำสืบว่าขายได้แล้ว ควรกำหนดให้จำเลยใช้ให้โจทก์ 6,000 บาท พิพากษากลับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงินจำนวนที่กล่าวแล้วพร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเงินเสร็จให้โจทก์

จำเลยทั้งสองฎีกาว่า เมื่อสัญญาเช่าซื้อระงับไปเพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย จำเลยไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อหลังจากที่รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าก่อนที่รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหาย จำเลยที่ 1 ค้างชำระค่าเช่าซื้อรวม 3 งวด ซึ่งจำเลยทั้งสองต้องร่วมกันรับผิดชำระค่าเช่าซื้อทั้งปวงที่ค้างชำระตามสัญญาเช่าซื้อเอกสารหมาย จ.1 ข้อ 5 แต่เมื่อสัญญาเช่าซื้อระงับ เพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไปตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2517จำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดชำระค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาเช่าซื้อระงับแล้วแม้ตามตามสัญญาเช่าซื้อข้อ 3(ก) จะระบุว่าผู้เช่าซื้อจะต้องรับผิดต่อการสูญหายและเสียหายทุกชนิดอันเกิดขึ้นแก่ยานพาหนะ (รถยนต์ที่เช่าซื้อ)ก็เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องให้จำเลยทั้งสองใช้ราคาหรือค่าเสียหายของรถยนต์ที่เช่าซื้อ จะฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อหลังจากที่สัญญาระงับไปเพราะรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไม่ได้

พิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้เงิน (ค่าเช่าซื้อที่ค้างชำระ3 งวด) 4,761 บาทให้โจทก์

Share