แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัดกระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ที เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2510 เวลากลางคืน จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันนายดำ แกล้วทนงค์ โดยเจตนาฆ่า นายดำมีบาดแผลสาหัสหลายแห่งทนพิษบาดแผลที่ถูกจำเลยฟันไม่ได้ถึงแก่ความตายทันทีนั้นเอง เหตุเกิดที่ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และริบของกลาง
จำเลยให้การว่า คนร้ายลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย จำเลยติดตามไปทันคนร้ายกำลังพาโคหนี จึงร้องให้หยุด คนร้ายไม่หยุดแล้วใช้ปืนยิงมา 1 นัด จำเลยจึงกระโดดฟันรวมทั้งหมด 4 ที แล้วไปแจ้งความกับเจ้าพนักงาน จึงรู้ว่าผู้ถูกฟันเป็นนายดำซึ่งเป็นคนรู้จักกันถึงแก่ความตาย
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า ผู้ตายไม่ได้เป็นคนร้ายลักโคและไม่ได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 20 ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วเห็นว่า โจทก์นำสืบไม่ได้ว่า จำเลยฆ่าผู้ตายโดยเจตนาและโดยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว จำเลยไม่มีความผิด พิพากษากลับยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อเท็จจริงไม่เชื่อว่าจำเลยกับพวกจะได้ไปเรียกผู้ตายจากบ้านให้ไปช่วยตามโคที่หาย เมื่อจำเลยกับพวกติดตามไปทันคนร้าย ก่อนจำเลยจะฟันคนร้าย ๆ ซึ่งเป็นผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัด จำเลยจึงฟันไปรวม 4 ที ถูกผู้ตายมีบาดแผล 5 แห่ง ถึงแก่ความตายทันทีนั้นเอง แล้ววินิจฉัยว่า เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า ผู้ตายกับพวกได้ลักโคของนายแดงพ่อตาแล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทัน ผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัดและกระสุนปืนก็ไม่ถูกจำเลยดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ที เป็นบาดแผล 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
พิพากษากลับ ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ประกอบด้วยมาตรา 69 จำคุก 3 ปี มีดของกลางริบ