คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 781/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นการร่วมกระทำความผิดด้วยกันหรือไม่เป็นปัญหาข้อเท็จจริง ฉะนั้นเมื่อศาลล่างทั้งสองตัดสินต้องกันมาว่าจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดและกรณีเข้าเกณฑ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 แล้วจำเลยจะฎีกาในปัญหาข้อนี้ไม่ได้ (เทียบฎีกาที่ 312/2475)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองสมคบร่วมกันทำร้ายร่างกาย นายวิโรจน์ รัตนประสิทธิ์ ได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 83

นายวิโรจน์เข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการ

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297, 83 จำคุกคนละ 2 ปี

จำเลยทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาจำเลยที่ 2 เฉพาะข้อกฎหมายว่า จำเลยที่ 2 ไม่ควรต้องรับผิดในผลที่จำเลยที่ 1 ผู้เดียวได้กระทำไปก่อนที่จำเลยที่ 2 จะได้เข้าร่วมด้วย จำเลยที่ 2 เข้าร่วมในฐานะเป็นลูกน้องใต้บังคับบัญชาจึงไม่ควรต้องรับผิดร่วมด้วย

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ฎีกาได้แต่เฉพาะปัญหาข้อกฎหมาย ศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมาแล้ว เมื่อพิเคราะห์ข้อเท็จจริงที่จำเลยที่ 2 อ้างมาในฎีกาแล้วเห็นว่าจำเลยปิดบังข้อเท็จจริงเพื่ออ้างว่ามิได้สมคบกับจำเลยที่ 1 ทำร้ายโจทก์ร่วมนั่นเอง ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นการสมคบร่วมกันกระทำผิดหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริงตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 312/2475 ฎีกาจำเลยที่ 2 จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ให้ยกฎีกาจำเลยที่ 2

Share