คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2108/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ในคดีร้องขัดทรัพย์ซึ่งมีราคาทรัพย์สินที่พิพาท 45,720 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด 28 รายการราคา 27,590 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ปล่อยอีก 14 รายการ ราคา 15,630 บาทเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริง (อ้างคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 131/2493)
ผู้ร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด โดยอ้างว่าสินค้าที่ถูกยึดเป็นสินค้าประเภทผู้ร้องรับเหมาขายแล้วส่งต้นทุนคืนให้ร้านค้าส่ง กำไรตกเป็นของผู้ร้อง แต่ทางนำสืบปรากฏว่าผู้ร้องซื้อด้วยเงินสดแทบทั้งสิ้น เช่นนี้ การที่ศาลอุทธรณ์ฟังพยานหลักฐานในสำนวนแล้ววินิจฉัยว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของผู้ร้อง ไม่ใช่ของจำเลย เป็นการฟังพยานหลักฐานชอบด้วยกระบวนพิจารณาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไม่นอกคำร้อง เพราะประเด็นมีว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยหรือไม่

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องจากโจทก์ชนะคดีจำเลย จึงนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ 43 รายการ เพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ตามคำพิพากษา ผู้ร้องขัดทรัพย์ยื่นคำร้องว่าทรัพย์ที่ยึดทุกรายการเป็นของผู้ร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ดังกล่าว

โจทก์ให้การว่า ทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลย ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ถอนการยึดทรัพย์ 28 รายการคืนเป็นสิทธิแก่ผู้ร้อง กับให้ถอนทรัพย์ที่ยึดรายการที่ 5 ตามที่โจทก์ขอถอน ส่วนทรัพย์ที่ยึดรายการอื่นให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดทั้งหมด

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ปล่อยทรัพย์รายการที่เหลือด้วย

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า คดีนี้ราคาทรัพย์สินที่พิพาทรวม 45,720 บาท ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด 28 รายการ รวมราคา 27,590 บาท ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ปล่อยอีก 14 รายการ รวมราคา15,630 บาท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ตามนัยคำสั่งคำร้องศาลฎีกาที่ 131/2493 จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2518 มาตรา 6 สำหรับปัญหาเรื่องศาลอุทธรณ์พิพากษานอกคำร้องหรือไม่นั้น โจทก์ว่าตามคำร้องผู้ร้องอ้างว่าสินค้าที่ถูกยึดเป็นสินค้าประเภทผู้ร้องรับเหมาขายแล้วส่งต้นทุนคืนให้ร้านค้าส่ง กำไรตกเป็นของผู้ร้อง แต่ตามที่ผู้ร้องนำสืบกลับปรากฏว่าผู้ร้องซื้อด้วยเงินสดแทบทั้งสิ้น จึงขัดกับคำร้องเห็นว่าคดีมีประเด็นว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยหรือไม่ ศาลอุทธรณ์ฟังพยานหลักฐานต่าง ๆ ในสำนวน แล้วฟังว่าทรัพย์ที่ยึดส่วนที่ศาลชั้นต้นยกคำร้องเป็นของผู้ร้องไม่ใช่ของจำเลย เป็นการฟังพยานหลักฐานชอบด้วยกระบวนพิจารณาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์จึงไม่นอกคำร้อง

พิพากษายืน

Share