คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2106/2524

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องขัดทรัพย์เดิมของผู้ร้องมีข้อความว่า ทรัพย์ที่ผู้ร้องขอให้ปล่อยเป็นของโจทก์ แต่ตามภาพถ่ายหนังสือสัญญาซื้อขายที่แนบมาท้ายคำร้องว่าเป็นทรัพย์ที่ผู้ร้องซื้อมาจึงเป็นเรื่องพิมพ์ถ้อยคำผิดพลาด ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นด่วนมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องอ้างว่าสิทธิของผู้ร้องมิได้ถูกโต้แย้ง ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โดยอาศัยคำร้องที่ผิดพลาดจากความเป็นจริงนั้นยังถือไม่ได้ว่าศาลได้มีคำสั่งถึงที่สุดในประเด็นที่ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยหรือของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมาร้องใหม่ตามคำร้องได้ ไม่เป็นร้องซ้ำ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพร้อมด้วยเรือนเลขที่ 48/13 หมู่ที่ 6 ตำบลเรียง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสของจำเลย เพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ให้โจทก์ตามคำพิพากษาคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 67/2522 ของศาลจังหวัดนราธิวาส

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของโจทก์ โจทก์ได้กรรมสิทธิ์มาโดยซื้อมาจากนางตีเมาะตามภาพถ่ายหนังสือสัญญาซื้อขายที่ดินรวมทั้งบ้านท้ายคำร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่โจทก์ยึดไว้ โจทก์ให้การว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของจำเลยและนางตีเมาะ นางตีเมาะโอนทรัพย์ที่โจทก์นำยึดให้ผู้ร้องเพื่อหลบหนี้โจทก์ ขอให้ยกคำร้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าศาลตรวจคำร้องขัดทรัพย์แล้วเมื่อผู้ร้องยอมรับว่าทรัพย์พิพาทเป็นของโจทก์ สิทธิของผู้ร้องที่ถูกโต้แย้งอันจะใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 จึงไม่มีให้ยกคำร้องขัดทรัพย์ จำหน่ายคดีจากสารบบความคดีถึงที่สุดโดยไม่มีฝ่ายใดอุทธรณ์ฎีกา ต่อมาผู้ร้องยื่นคำร้องอีกเป็นคดีนี้โดยอ้างว่าทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์มาโดยซื้อมาจากนางตีเมาะ ตามภาพถ่ายหนังสือสัญญาซื้อขายท้ายคำร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด โจทก์ให้การว่าคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ของผู้ร้องฉบับนี้ซ้ำกับคำร้อง ขอให้ปล่อยทรัพย์ของผู้ร้องฉบับก่อน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ขอให้ยกคำร้อง

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ศาลได้สั่งยกคำร้องขัดทรัพย์รายหนึ่งเสร็จไปแล้วผู้ร้องขัดทรัพย์รายนั้นซ้ำอีกไม่ได้ ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การที่ผู้ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดในฉบับก่อนก็เพราะเป็นทรัพย์ของผู้ร้องโดยมีหนังสือซื้อขายทรัพย์ของทางราชการสนับสนุนคำร้องนั้น ฉะนั้น ผู้ร้องจะไปอ้างในคำร้องว่า ทรัพย์ที่ขอให้ปล่อยจากการยึดเป็นของโจทก์ได้อย่างไร โดยเหตุผลและหลักฐานจึงเห็นได้โดยชัดแจ้งว่า คำร้องขอผู้ร้องมีข้อความว่า ทรัพย์ที่ผู้ร้องขอให้ปล่อยเป็นของโจทก์จึงเป็นเรื่องพิมพ์ถ้อยคำในคำร้องผิดพลาด ดังนั้น การที่ศาลชั้นต้นด่วนมีคำสั่งยกคำร้องของผู้ร้องเพราะสิทธิของผู้ร้องมิได้ถูกโต้แย้ง ผู้ร้องจะใช้สิทธิทางศาลไม่ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โดยอาศัยคำร้องที่ผิดพลาดจากความเป็นจริงยังถือไม่ได้ว่าศาลได้มีคำสั่งถึงที่สุดในประเด็นที่ว่าทรัพย์ที่ยึดเป็นของจำเลยหรือของผู้ร้อง ผู้ร้องจึงมาร้องใหม่ตามคำร้องฉบับหลังได้ไม่เป็นร้องซ้ำ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

พิพากษายกคำพิพากษาและคำสั่งของศาลล่างทั้งสองให้ศาลชั้นต้นพิจารณาสั่งใหม่

Share