แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คดีความผิดต่อส่วนตัวซึ่งศาลชั้นต้นลงโทษจำเลย โจทก์จำเลยต่างอุทธรณ์แล้วทั้งสองฝ่ายขอถอนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตและจำหน่ายคดี โจทก์จำเลยฎีกาว่าคำสั่งศาลอุทธรณ์ไม่ตรงตามความประสงค์เพราะคำสั่งนั้นมีผลให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นยังคงอยู่ โจทก์จำเลยประสงค์เลิกคดีกัน และโจทก์ฎีกาขอให้มีคำสั่งให้โจทก์ถอนฟ้องด้วยดังนี้ ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ โดยถือว่าโจทก์ขอถอนฟ้องคดีนี้ในชั้นฎีกาซึ่งจำเลยไม่คัดค้าน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 350
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วมีคำสั่งประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง จำคุก 1 ปี
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษหนักขึ้น
จำเลยอุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง
ขณะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์จำเลยยื่นคำร้องร่วมกันว่าได้ทำความตกลงกันแล้ว ขอถอนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์จำเลยถอนอุทธรณ์และสั่งจำหน่ายคดี
โจทก์จำเลยฎีกาว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่อนุญาตให้ถอนอุทธรณ์ไม่ตรงตามความประสงค์ เพราะคำสั่งของศาลอุทธรณ์ดังกล่าวมีผลให้คำพิพากษาศาลชั้นต้นยังคงอยู่ความจริงโจทก์จำเลยประสงค์จะเลิกคดีต่อกัน นอกจากนี้โจทก์ฎีกาขอให้มีคำสั่งให้โจทก์ถอนฟ้องด้วย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ฎีกาโจทก์ที่ขอให้ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง ถือได้ว่าโจทก์ขอถอนฟ้องคดีนี้ในชั้นฎีกาซึ่งจำเลยไม่คัดค้านคดีนี้เป็นคดีความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ย่อมถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 35 วรรคสองศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้
จำหน่ายคดีออกจากสารบบความของศาลฎีกา