คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 9282/2559

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกัน มีวันเวลากระทำความผิดและสถานที่เกิดเหตุเช่นเดียวกับคดีนี้ เพียงแต่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของงานศิลปกรรมต่างรายกันเท่านั้น การที่จำเลยนำออกขาย เสนอขาย และมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มีรูปงานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายต่างรายหลายรายการต่อเนื่องในวันเดียวกัน จึงฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน การกระทำของจำเลยต่อผู้เสียหายแต่ละรายถือเป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้จำเลยให้การรับสารภาพ แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ศปก.อ.33/2558 ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกันกับความผิดที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้แล้ว คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องในคดีดังกล่าว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกับคดีดังกล่าวจึงระงับไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 4, 8, 15, 27, 31, 61, 70, 75, 76 และ 78 ให้ของกลางตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ และจ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ กับนับโทษจำคุกของจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ศปก.อ.33/2558 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ว่า ฟ้องของโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ศปก.อ.33/2558 หมายเลขแดงที่ ศปก.อ.33/2558 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางอันถือได้ว่าศาลดังกล่าวได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ฟ้องเป็นผลให้สิทธินำคดีอาญาตามฟ้องของโจทก์ในคดีนี้ระงับไปหรือไม่ เห็นว่า คดีก่อนโจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกัน มีวันเวลากระทำความผิดและสถานที่เกิดเหตุเช่นเดียวกับคดีนี้ เพียงแต่ผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าของศิลปกรรมต่างรายกันเท่านั้น การที่จำเลยนำออกขาย เสนอขาย และมีไว้เพื่อขายสินค้าที่มีรูปงานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้เสียหายต่างรายหลายรายการต่อเนื่องในวันเดียวกัน จึงฟังได้ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน การกระทำของจำเลยต่อผู้เสียหายแต่ละรายถือเป็นความผิดกรรมเดียวกัน มิใช่ความผิดหลายกรรมต่างกัน แม้จำเลยให้การรับสารภาพ แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในความผิดที่ได้ฟ้องในคดีอาญาหมายเลขดำที่ ศปก.อ.33/2558 ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกันกับความผิดที่โจทก์ฟ้องในคดีนี้แล้ว คดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับฟ้องในคดีดังกล่าว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องในคดีนี้ซึ่งเป็นความผิดกรรมเดียวกับคดีดังกล่าวจึงระงับไป ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share