แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงานและคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนที่ให้โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายค่าทดแทนให้บิดามารดาของผู้ตายรวมเป็นเงิน 20,280 บาทโจทก์ต้องวางเงินจำนวนดังกล่าวต่อศาลตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การคุ้มครองแรงงาน จึงจะฟ้องคดีได้ เมื่อโจทก์วางเงินต่อศาลไม่ครบจำนวนโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า สำนักงานแรงงานจังหวัดนครสวรรค์มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทดแทนให้บิดามารดาของ ส.ผู้ตายโดยอ้างว่า ส. เป็นลูกจ้างโจทก์ซึ่งความจริง ส. ไม่ได้เป็นลูกจ้างโจทก์ โจทก์อุทธรณ์คำสั่งไปยังจำเลย จำเลยมีคำสั่งยืนตาม ขอให้เพิกถอน คำสั่งทั้งสองดังกล่าว
จำเลยให้การว่า โจทก์ไม่ได้ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงานโดยมิได้วางเงินต่อศาลเป็นจำนวนตามคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงานเสียก่อน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง และ ส. เป็นลูกจ้างของโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า ส. ยังไม่เป็นลูกจ้างของโจทก์ พิพากษาเพิกถอนคำสั่งตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า โจทก์ไม่นำเงินค่าทดแทนมาวางศาลให้ครบตามคำสั่งของอธิบดีกรมแรงงาน โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่พอใจคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนและอธิบดีที่มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทดแทนให้บิดามารดาของผู้ตายรวมเป็นเงิน 20,280 บาท โจทก์จึงฟ้องคดีนี้ขอให้เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีและคำสั่งของพนักงานเงินทดแทนดังนี้ โจทก์ต้องวางเงินจำนวน20,280 บาท ต่อศาลตามคำสั่งของอธิบดีตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การคุ้มครองแรงงาน ข้อ 60 จึงจะฟ้องคดีได้ การที่โจทก์ วางเงินต่อศาลไม่ครบ 20,280 บาท โดยวางเงินค่าทดแทนขณะฟ้องรวม 7 เดือน เป็นเงิน2,184 บาท และค่าทำศพเป็นเงิน 1,560 บาท รวม 3,744 บาท ส่วนเงินทดแทนเดือนต่อไปโจทก์อ้างว่าจะนำมาวางศาลเมื่อถึงกำหนดของทุกเดือนถือว่าโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างไม่วางเงินต่อศาลเป็นจำนวนตามคำสั่งของอธิบดีเป็นการไม่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้
พิพากษายืน