คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3234/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ลูกจ้างจะมีข้อตกลงกับนายจ้างว่าลูกจ้างต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายหรือสูญหายของสินค้าที่เก็บไว้ในคลังสินค้าก็ตาม แต่การตกลงเช่นนี้คู่กรณีย่อมคำนึงถึงความสามารถที่คู่กรณีจะรับผิดชอบได้ คงไม่มีเจตนาที่จะให้รับผิดชอบไม่ว่ากรณีใด ๆซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจและความสามารถของคู่กรณี เช่น อุบัติเหตุ ภัยพิบัติธรรมชาติโจรกรรมหรือเหตุสุดวิสัยด้วย ดังนั้น เมื่อสินค้าของนายจ้างหายไปโดยมิได้เกิดจากการยักยอกหรือด้วยความประมาทเลินเล่อของลูกจ้างแล้วลูกจ้างก็ไม่ต้องรับผิดตามข้อตกลงนั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองเป็นลูกจ้างของโจทก์โดยจำเลยที่ 1เป็นหัวหน้าคลังสินค้ายา จำเลยที่ 2 เป็นพนักงานประจำคลังสินค้ายาโจทก์ตรวจสอบพบว่ายาหายไปโดยจำเลยทั้งสองร่วมกันยักยอกหรือมิได้ใช้ความระมัดระวังในการควบคุมดูแลและเก็บรักษา จำเลยทั้งสองจึงต้องร่วมกันรับผิดชำระเงินค่ายาที่หายไปแก่โจทก์ ขอให้ศาลบังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันรับผิดชำระเงินค่ายาพร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า การที่ยาสูญหายไปมิใช่ความผิดของจำเลยที่ 1หรือผู้ใต้บังคับบัญชา จำเลยที่ 1 จึงมิต้องรับผิดชอบ และฟ้องแย้งว่า โจทก์ได้มีคำสั่งพักงานโจทก์ และหลังจากฟ้องคดีนี้แล้วโจทก์เลิกจ้างจำเลยที่ 1โดยไม่จ่ายค่าชดเชย ขอให้ศาลมีคำสั่งยกเลิกการสั่งพักงาน เพิกถอนคำสั่งเลิกจ้าง ให้โจทก์จ่ายค่าชดเชย เงินสะสมและค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 1

จำเลยที่ 2 ให้การว่า ไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดหรือมีหน้าที่ต้องรับผิดตามฟ้องโจทก์ จึงไม่ต้องรับผิดหรือร่วมกับรับผิดกับจำเลยที่ 1 และฟ้องแย้งว่าโจทก์มีคำสั่งพักงานจำเลยที่ 2 ไว้ชั่วคราวโดยไม่จ่ายค่าจ้าง แล้วโจทก์ได้เลิกจ้างจำเลยที่ 2 โดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้าและไม่จ่ายค่าชดเชยขอให้ศาลบังคับโจทก์ชดใช้ค่าเสียหายแก่จำเลยที่ 2

โจทก์ให้การแก้ฟ้องแย้งว่า จำเลยทั้งสองกระทำการทุจริตก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงแก่โจทก์ โจทก์จึงมีสิทธิเลิกจ้างจำเลยทั้งสองได้โดยจำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินใด ๆ จากโจทก์

ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้องโจทก์และยกฟ้องแย้งจำเลยทั้งสอง

โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า มีข้อกำหนดระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 1 ซึ่งกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดของจำเลยที่ 1 ว่า”รับผิดชอบแต่ผู้เดียวและรับประกันชดใช้ค่าเสียหายและ / หรือสูญหายซึ่งสินค้าที่เก็บไว้ในคลังสินค้าเป็นส่วนตัว” การตกลงเช่นนี้คู่กรณีย่อมคำนึงถึงความรับผิดชอบซึ่งอยู่ในวิสัยที่คู่กรณีจะสามารถรับผิดชอบได้หรือในเหตุอันจะโทษคู่กรณีที่ยอมรับข้อตกลงนั้น คงไม่มีเจตนาที่จะตกลงรับผิดชอบไม่ว่ากรณีใด ๆ ซึ่งอยู่นอกเหนืออำนาจและความสามารถของตนเช่น อุบัติเหตุ ภัยพิบัติธรรมชาติ โจรกรรม หรือเหตุสุดวิสัย เมื่อยาของโจทก์ที่หายไปมิได้เกิดจากการยักยอกของจำเลยที่ 1 หรือด้วยความประมาทเลินเล่อของจำเลยที่ 1 อันจะโทษจำเลยที่ 1 ได้แล้ว จำเลยที่ 1 ก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ตามข้อตกลงดังกล่าว ส่วนจำเลยที่ 2 มิได้เป็นผู้ตกลงด้วยตามข้อกำหนดดังกล่าวจึงไม่ต้องรับผิดชอบต่อโจทก์

พิพากษายืน

Share