คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 983/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำร้องของจำเลยที่ขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ มีใจความว่าทนายจำเลยพิมพ์อุทธรณ์ไม่ทันเนื่องจากติดว่าความที่ศาลจังหวัดนครปฐมในตอนเช้า และกลับมาพิมพ์อุทธรณ์ในตอนบ่าย แล้วมายื่นต่อศาลไม่ทันเนื่องจากจราจรติดขัดเพราะนักศึกษาเดินขบวนดังนี้ ไม่ใช่พฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 จะยกขึ้นมากล่าวอ้างเพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์หาได้ไม่

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสามร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากเรือของจำเลยที่ 1 ชนสะพานเทพหัสดินของโจทก์เสียหาย จำเลยทั้งสามให้การว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้เป็นเจ้าของเรือลำพิพาท จำเลยทั้งสามไม่ได้ประมาทให้เรือชนสะพานของโจทก์ จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสามร่วมกันใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2523 ครบกำหนดอุทธรณ์วันที่ 22 พฤศจิกายน 2523 ซึ่งตรงกับวันเสาร์รุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์หยุดราชการวันสุดท้ายที่จำเลยจะยื่นอุทธรณ์ได้คือวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน2523 ซึ่งเป็นวันเปิดทำราชการ แต่จำเลยทั้งสามมิได้ยื่นภายในกำหนดเวลาดังกล่าว

ครั้นวันที่ 25 พฤศจิกายน 2523 จำเลยทั้งสามยื่นคำร้องว่า ระหว่างพิจารณาของศาลแพ่ง จำเลยที่ 1 จดทะเบียนเปลี่ยนแปลงหุ้นส่วนผู้จัดการผู้จัดการคนใหม่เพิ่งทราบว่าจำเลยที่ 1 แพ้คดีโจทก์เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน2523 จึงมอบคดีให้นายสมพงศ์เป็นทนายจำเลยทั้งสาม ในวันที่ 21พฤศจิกายน 2523 เวลาประมาณ 17.00 นาฬิกา และต้องยื่นอุทธรณ์ภายในวันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2523 แต่ทนายจำเลยติดว่าความที่ศาลจังหวัดนครปฐมในตอนเช้าทนายจำเลยกลับมาพิมพ์อุทธรณ์ที่เตรียมเสร็จเมื่อคืนวันอาทิตย์เพื่อยื่นต่อศาลแพ่งในตอนบ่าย แต่รถยนต์ของทนายเกิดเสียระหว่างทางทนายจำเลยกลับมาพิมพ์อุทธรณ์คำสั่งจะเสร็จได้มอบให้ทนายความในสำนักเดียวกันนำค่าฤชาธรรมเนียมไปวางต่อศาลแพ่ง พอพิมพ์อุทธรณ์เสร็จก็จะนำไปยื่นต่อศาลแพ่ง แต่การจราจรติดขัดเพราะนักศึกษาเดินขบวน ทนายจำเลยเดินทางมาถึงศาลแพ่งเวลา 16.45 นาฬิกา จึงไม่สามารถยื่นอุทธรณ์ได้พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย ขอให้ศาลสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำร้อง

จำเลยทั้งสามอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยทั้งสามฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยจะยื่นคำร้องขอขยายเวลาอุทธรณ์ได้ต่อเมื่อมีพฤติการณ์พิเศษ และยื่นมาก่อนสิ้นระยะเวลาอุทธรณ์เว้นแต่กรณีที่มีเหตุสุดวิสัยตามที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 23 ตามคำร้องของจำเลยดังกล่าวข้างต้นศาลฎีกาเห็นว่าทนายจำเลยมีเวลาทำอุทธรณ์ถึง 2 วัน คือวันที่ 22 และ 23 พฤศจิกายน 2523 ควรจะให้เสร็จเรียบร้อยถ้ามายื่นต่อศาลในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2523 ด้วยตนเองไม่ได้ก็ให้ตัวความหรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นมายื่นแทนภายในกำหนดอุทธรณ์ได้แต่หาได้กระทำเช่นนั้นไม่ พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นความผิดของทนายจำเลยเองมิใช่พฤติการณ์พิเศษที่จะยกขึ้นมากล่าวอ้างเพื่อขอขยายระยะเวลาอุทธรณ์ได้ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่ากรณีมีเหตุสุดวิสัยที่จำเลยสามารถยื่นคำร้องภายหลังจากที่พ้นระยะเวลาอุทธรณ์แล้วได้หรือไม่

พิพากษายืน

Share