แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 69 วรรคสอง ประกอบมาตรา 27 (2) และ 28 (2) และได้ฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาเดียวกัน มีวันกระทำความผิด และสถานที่เกิดเหตุในคดีอาญาอีกคดีหนึ่งของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเช่นเดียวกับคดีนี้ เพียงแต่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต่างราย การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันเผยแพร่เพลงดังกล่าวต่อสาธารณชนต่อเนื่องในวันเดียวกัน จึงถือได้ว่าเป็นการกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในคดีดังกล่าวซึ่งเป็นคดีก่อนแล้ว ฟ้องในคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับคดีดังกล่าว
ย่อยาว
บรรดาคำฟ้อง คำให้การ รวมทั้งรายการต่าง ๆ ที่ปรากฏในคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของคำพิพากษานี้
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงรับฟัง เป็นยุติว่าบริษัทจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ในฐานะผู้สร้างสรรค์งานเพลง ชื่อเพลง “ฟ้ามืดบ่ดน” และเพลง “คนเหงาที่เข้าใจเธอ” ที่แต่งขึ้นเพื่อขับร้องและบรรเลงโดยศิลปิน โดยมีทั้งคำร้องและทำนองหรือมีทำนอง เนื้อร้อง และภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบคาราโอเกะที่บันทึกในสิ่งบันทึกเสียง อันเป็นงานประเภทดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุและสิ่งบันทึกเสียง ซึ่งได้มีการโฆษณาครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2554 และพฤศจิกายน 2555 ตามลำดับ เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2557 เวลากลางคืนหลังเที่ยงจำเลยทั้งสองร่วมกันเผยแพร่เพลงดังกล่าวต่อสาธารณชนโดยร่วมกันนำแผ่นซีดีเพลงที่มีทำนองเนื้อร้อง และภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบคาราโอเกะมาเปิดใช้งานโดยบรรจุไว้ในตู้เพลงคาราโอเกะที่มีเครื่องเล่นแผ่นซีดีแปลงสัญญาณเป็นภาพและเสียง แสดงที่จอและลำโพงของตู้เพลงคาราโอเกะ เชื่อมต่อกับไมโครโฟนให้ผู้ใช้บริการเลือกรับฟังและขับร้องที่ร้านเพื่อนใหม่คาราโอเกะตำบลค้อใต้ อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสว่างแดนดิน (ที่ถูกคือ จังหวัดสกลนคร) ซึ่งจำเลยที่ 1 เป็นเจ้าของ โดยจำเลยทั้งสองได้รับผลประโยชน์ตอบแทนเป็นค่าบริการเพลงละ 5 บาท กับคิดรวมในค่าอาหารและเครื่องดื่มเป็นการตอบแทน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย จำเลยทั้งสองรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยทั้งสองในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.2759/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง
มีปัญหาข้อกฎหมายที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการเดียวว่า คำฟ้องโจทก์คดีนี้เป็นฟ้องซ้ำกับคดีหมายเลขแดงที่ อ.2759/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางหรือไม่ เห็นว่า โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองในข้อหาละเมิดลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 69 วรรคสอง ประกอบมาตรา 27 (2) และ 28 (2) ซึ่งโจทก์อุทธรณ์รับว่าโจทก์ได้ฟ้องจำเลยทั้งสองในข้อหาเดียวกัน มีวันกระทำความผิด และสถานที่เกิดเหตุในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.2759/2557 ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางเช่นเดียวกันกับคดีนี้ เพียงแต่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ต่างราย ดังนั้น การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันเผยแพร่เพลงดังกล่าวต่อสาธารณชน โดยร่วมกันนำแผ่นซีดีเพลงที่มีทำนอง เนื้อร้อง และภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบคาราโอเกะมาเปิดใช้งานโดยบรรจุไว้ในตู้เพลงคาราโอเกะที่มีเครื่องเล่นแผ่นซีดี แปลงสัญญาณเป็นภาพและเสียง แสดงที่จอและลำโพงของตู้เพลงคาราโอเกะ เชื่อมต่อกับไมโครโฟนให้ผู้ใช้บริการเลือกรับฟังและขับร้องที่ร้านเพื่อนใหม่คาราโอเกะ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เสียหาย ต่อเนื่องในวันเดียวกัน จึงถือได้ว่าเป็นการที่จำเลยทั้งสองกระทำโดยมีเจตนาเดียวกัน เมื่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางมีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.2759/2557 ซึ่งเป็นคดีก่อนแล้ว ฟ้องในคดีนี้จึงเป็นฟ้องซ้ำกับคดีดังกล่าว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องในคดีนี้ซึ่งเป็นฟ้องที่ขอให้ลงโทษจำเลยในความผิดกรรมเดียวกันกับฟ้องในคดีก่อนจึงระงับไป ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศและวิธีพิจารณาคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศพ.ศ. 2539 มาตรา 26 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษายกฟ้องมานั้นศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน