คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 951/2525

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดิน จำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์โดยให้การต่อสู้ไว้หลายประการ เช่น จำเลยไม่เคยติดค้างค่าเช่าและไม่เคยได้รับคำบอกกล่าวเลิกการเช่า โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบในข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้างและจำเลยมีหน้าที่นำสืบแก้ตามคำให้การจำเลย ในข้อเหล่านี้โจทก์จะอ้างว่าเป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับเจ้าของเดิม ไม่เกี่ยวกับโจทก์หาได้ไม่ เพราะโจทก์ซึ่งเป็นผู้รับโอนย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วย ดังนี้ศาลจะสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยและตัดสินคดีไปย่อมเป็นการไม่ชอบ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่ดินจากนางแจ่มจันทร์ ก่อนโจทก์ซื้อจำเลยเช่าที่ดินบางส่วนจากนางแจ่มจันทร์เนื้อที่ประมาณ 35 ตารางวา ปลูกบ้านเลขที่ 151 เมื่อสิ้นอายุการเช่าแล้วไม่ได้ทำสัญญาเช่าใหม่ จำเลยไม่ชำระค่าเช่า นางแจ่มจันทร์บอกเลิกสัญญาเช่าแก่จำเลยแล้ว แต่จำเลยไม่ออกไปขอให้ศาลพิพากษาขับไล่

จำเลยให้การว่า จำเลยทำสัญญาเช่ากับนางแจ่มจันทร์ เมื่อครบสัญญาเช่าจำเลยคงครอบครองที่ดินที่เช่าและนางแจ่มจันทร์คงเก็บค่าเช่าตลอดมา โจทก์ทราบถึงข้อผูกพันอันเป็นสัญญาต่างตอบแทนระหว่างจำเลยกับนางแจ่มจันทร์ดี จำเลยไม่เคยติดค้างค่าเช่า และไม่เคยรับคำบอกเลิกสัญญาจากนางแจ่มจันทร์ สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับนางแจ่มจันทร์ไม่สุจริต ขอให้ยกฟ้อง

ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์พยานจำเลย แล้วพิพากษาให้ขับไล่จำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาและพิพากษาใหม่

โจทก์ฎีกาว่าศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานชอบแล้ว

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยให้การต่อสู้ไว้หลายประการว่า ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยไม่ส่งค่าเช่าอยู่โดยไม่มีสิทธิ โจทก์เสียหาย กับนางแจ่มจันทร์ได้บอกเลิกสัญญาเช่าแก่จำเลยแล้วไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ความจริงนางแจ่มจันทร์เก็บค่าเช่าตลอดมา จำเลยไม่เคยติดค้างค่าเช่าและไม่เคยได้รับคำบอกกล่าวเลิกสัญญาจากนางแจ่มจันทร์ นางแจ่มจันทร์ยินยอมให้จำเลยเช่าต่อไปตามสัญญาเดิม สัญญาซื้อขายระหว่างโจทก์กับนางแจ่มจันทร์ไม่สุจริต เป็นโมฆะ จึงเป็นคำให้การปฏิเสธคำฟ้องโจทก์โจทก์จึงมีหน้าที่นำสืบข้อเท็จจริงตามที่โจทก์กล่าวอ้าง และจำเลยมีหน้าที่นำสืบแก้ตามคำให้การจำเลย ที่โจทก์ฎีกาอ้างว่าแม้จำเลยจะปฏิเสธก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยกับนางแจ่มจันทร์ ไม่เกี่ยวกับโจทก์นั้น เห็นว่าโจทก์ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทจากนางแจ่มจันทร์ย่อมรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ของผู้โอนซึ่งมีต่อผู้เช่านั้นด้วยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 569 สัญญาเช่าระหว่างจำเลยกับนางแจ่มจันทร์ผู้โอนจึงย่อมเกี่ยวกับโจทก์ผู้รับโอนด้วย

พิพากษายืน

Share