คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3365/2516

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นที่ดินมี น.ส.3 และมีชื่อจำเลยเป็นผู้รับยกให้จาก ว. การที่ผู้ร้องนำสืบว่า ว. ยกที่พิพาทให้แก่จำเลยและผู้ร้องตามคำสั่งของบิดามารดาผู้วายชนม์ แต่ในวันจดทะเบียนโอน ผู้ร้องป่วยไปรับโอนไม่ได้ จึงลงชื่อจำเลยเป็นผู้รับการยกให้แต่ผู้เดียว และหลังจากได้รับที่ดินแล้ว ผู้ร้องกับจำเลยได้นำเงินที่ทำมาหาได้ร่วมกันปลูกเรือนลงในที่ดินนั้นและใช้อยู่อาศัยด้วยกันมา เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว นั้น เป็นการนำสืบถึงเหตุแห่งความจริงเจตนาและความสัมพันธ์ของผู้ให้กับผู้รับการยกให้ แม้ตามเอกสารจะมีชื่อจำเลยเป็นผู้รับการยกให้แต่เพียงคนเดียวก็ไม่ใช่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร

ย่อยาว

เดิม ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ จำเลยไม่ชำระโจทก์จึงนำยึดทรัพย์ คือที่ดินมี น.ส.3 หนึ่งแปลง กับเรือน 1 หลังของจำเลยลูกหนี้ตามคำพิพากษาแล้ว

ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า เป็นภริยาจำเลย แต่มิได้จดทะเบียนสมรสเมื่อ พ.ศ. 2504 ผู้ร้องกับจำเลยได้รับยกให้ที่ดินที่โจทก์นำยึดจากนายมงคลและนางวง แสงทอง แต่ในการทำสัญญาและจดทะเบียนนิติกรรมให้ผู้ร้องให้จำเลยลงชื่อเป็นผู้รับยกให้ และผู้ร้องกับจำเลยได้ครอบครองในฐานะเป็นเจ้าของร่วมกันตลอดมา ผู้ร้องจึงมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งจากเงินที่ขายทอดตลาดกึ่งหนึ่งเป็นเงิน 18,300 บาท ขอให้กันส่วนค่าขายทรัพย์ดังกล่าวให้แก่ผู้ร้อง

โจทก์คัดค้านว่า ทรัพย์พิพาทนั้นเป็นของจำเลยแต่ผู้เดียว

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วมีคำสั่งให้กันส่วนเงินค่าเรือนให้ผู้ร้องกึ่งหนึ่งตามที่โจทก์ยินยอม ส่วนที่ผู้ร้องขอให้กันส่วนเงินค่าขายที่ดิน ให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ศาลฎีกาพิเคราะห์แล้ว ที่ผู้ร้องนำนางวง แสงทอง มาสืบว่านางวงได้ยกที่ดินแปลงดังกล่าวให้แก่จำเลย และผู้ร้อง ตามคำสั่งของบิดามารดาผู้วายชนม์ แต่ในวันจดทะเบียนโอนผู้ร้องป่วย ไปรับโอนไม่ได้ จึงได้ลงชื่อจำเลยเป็นผู้รับการยกให้แต่ผู้เดียว และผู้ร้องนำสืบว่าหลังจากได้รับที่ดินแล้ว ผู้ร้องกับจำเลยได้นำเงินที่ทำมาหาได้ร่วมกันเป็นเงิน 8,000 บาท ปลูกเรือนลงในที่ดินแปลงดังกล่าวและใช้อยู่อาศัยด้วยกันมาจนบัดนี้ เป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ศาลฎีกาเห็นว่าที่ดินที่โจทก์นำยึดเป็นที่ดิน น.ส.3 การยกให้ก็อาจทำได้โดยการมอบการครอบครองให้และตามพฤติการณ์ก็ฟังได้ว่าผู้ร้องได้สิทธิครอบครองแล้ว การนำสืบของผู้ร้องดังกล่าวแล้ว เป็นการนำสืบถึงเหตุแห่งความจริง เจตนาและความสัมพันธ์ของผู้ให้กับผู้รับการยกให้ แม้เอกสารหมาย ร.2 จะมีชื่อจำเลยเป็นผู้รับการยกให้แต่เพียงคนเดียวก็ตาม ก็ไม่ใช่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสารเทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 886,887/2498 ระหว่าง นางสระ มิ่งขวัญ โจทก์ นางดารา สิงหไพศาล จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 2051/2492 ระหว่างนางหวา ต้องประสงค์ โจทก์ นายทอง นางนวล จำเลย และคำพิพากษาฎีกาที่ 2051/2492 ระหว่าง นางหวา ต้องประสงค์ โจทก์ นายทอง นางนวล จำเลย เมื่อผู้ร้องได้สิทธิครอบครองแล้ว ผู้ร้องจึงมีสิทธิที่จะได้รับการกันส่วนเงินค่าขายทอดตลาดที่ดินที่ยึด ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้ยกคำขอกันส่วนของผู้ร้องนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น

พิพากษากลับคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ ให้กันส่วนเงินค่าขายทอดตลาดที่ดินกึ่งหนึ่งให้ผู้ร้องให้โจทก์ใช้ค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความสามศาล โดยกำหนดค่าทนายความให้ เป็นเงิน500 บาทแทนผู้ร้อง

Share