แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องเรียกร้องตามสิทธิของโจทก์ในขณะที่โจทก์ยังเป็นสมาชิกสมาคมจำเลยอยู่ ไม่ได้ขอให้เพิกถอนมติของสมาคมจำเลยที่ให้โจทก์ขาดจากสมาชิกภาพ จะยกบทบัญญัติมาตรา1291 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ขึ้นมาปรับกับคดีหาได้ไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องและแก้ฟ้องว่า จำเลยเป็นนิติบุคคลมีวัตถุประสงค์ตามข้อบังคับและได้เปิดแผนกสงเคราะห์ (ณาปนกิจ) โดยมีวัตถุประสงค์ดำเนินงานด้านสงเคราะห์ เช่น ช่วยเหลือในการบำบัด งานสมรส งานทำศพ ขึ้นอีกแผนกหนึ่ง โจทก์เข้าเป็นสมาชิกของสมาคมทั้งสองแผนก จำเลยมีข้อสัญญาว่า บรรดาบิดามารดาหรือภรรยาของสมาชิกถึงแก่กรรมจำเลยจะให้ 70 เปอร์เซ็นต์ของเงินที่เก็บได้จากสมาชิก เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2511 นางโบยี่ภรรยาของโจทก์ถึงแก่กรรม โจทก์ขอรับเงินทำศพจากจำเลยตามระเบียบ จำเลยไม่ยอมจ่ายอ้างว่าโจทก์เป็นหนี้ติดค้างค่าบำรุงศพสิบกว่าครั้ง คณะกรรมการลงมติเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2511 ให้โจทก์ขาดจากสมาชิกภาพ และงดจ่ายเงินค่าทำศพแล้วจึงขอศาลบังคับให้จำเลยใช้เงิน 5,131 บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์ค้างค่าช่วยทำศพสิบกว่าราย คณะกรรมการประชุมลงมติให้สมาชิกที่เป็นหนี้ค่าบำรุงและค่าณาปนกิจขาดจากสมาชิกภาพแล้ว และตัดฟ้องว่า หากโจทก์เห็นว่าสมาคมจำเลยลงมติโดยฝ่าฝืนข้อบังคับหรือกฎหมาย โจทก์ก็ชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติเสียภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ลงมติ คดีของโจทก์จึงขาดอายุความ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ฟ้องโจทก์ไม่ขาดอายุความ พิพากษาให้จำเลยชำระเงินจำนวนตามฟ้องให้แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า สมาคมจำเลยลงมติให้โจทก์ขาดจากสมาชิกภาพในวันที่ 21 สิงหาคม 2511 ภรรยาโจทก์ตายเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2511โจทก์ฟ้องคดีเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2511 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1291 ที่จำเลยอ้างถึงมีความบัญญัติว่า “ถ้าสมาคมลงมติโดยฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคมเองก็ดี หรือฝ่าฝืนต่อกฎหมายก็ดี เมื่อสมาชิกคนหนึ่งคนใดหรือพนักงานอัยการร้องขอท่านให้ศาลเพิกถอนมตินั้นเสีย แต่การที่สมาชิกจะร้องต่อศาลเช่นนี้ต้องร้องอย่าให้เนิ่นช้าเกินกว่ากำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้ลงมตินั้น” ศาลฎีกาเห็นว่า จะยกบทบัญญัติดังกล่าวขึ้นมาปรับกับคดีนี้หาได้ไม่ เพราะโจทก์เรียกร้องตามสิทธิของโจทก์ในขณะที่โจทก์ยังเป็นสมาชิกสมาคมจำเลยอยู่ โจทก์ไม่ได้ขอให้เพิกถอนมติของสมาคมจำเลยที่ให้โจทก์ขาดจากสมาชิกภาพ แม้จะถือว่าโจทก์ขอให้เพิกถอนมติของสมาคมจำเลยไม่ได้เพราะเกินหนึ่งเดือนแล้ว มติของสมาคมจำเลยเป็นผลให้จำเลยขาดจากสมาชิกภาพอย่างเร็วที่สุดก็เพียงในวันที่สมาคมจำเลยมีมติ คือวันที่ 21 สิงหาคม 2511 ก่อนนั้นคือวันที่ 20เดือนเดียวกัน ต้องถือว่าโจทก์ยังเป็นสมาชิกอยู่ ภรรยาโจทก์ตายในวันที่ 20 นั้นเอง โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกร้องเงินค่าณาปนกิจจากจำเลยได้
พิพากษายืน