แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ทนายความของผู้รับจำนองมีหนังสือถึงผู้จำนองมีความว่า’นางสาวศิริวรรณได้มอบอำนาจให้ข้าพเจ้าใช้สิทธิเรียกร้องและบอกเลิกสัญญาจำนองต่อท่าน. ดังนี้ ด้วยหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านไปจัดการไถ่ถอนจำนองที่ดินทั้ง 3โฉนดภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2523 หากพ้นกำหนดไปแล้วท่านเพิกเฉยก็ดี ฯลฯ ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องดำเนินคดีกับท่านตามที่ได้รับมอบหมายไว้’ ดังนี้เป็นคำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 728 แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกู้เงินโจทก์โดยจำนองที่ดิน 3 โฉนดไว้เป็นประกัน ต่อมาจำเลยค้างชำระดอกเบี้ย โจทก์จึงมอบให้ทนายความมีหนังสือบอกเลิกสัญญาจำนอง และให้จำเลยนำเงินมาไถ่ถอนจำนองภายในกำหนด แต่จำเลยเพิกเฉย จึงฟ้องบังคับจำนอง
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้บอกกล่าวบังคับจำนอง แต่บอกเลิกสัญญาจำนองแก่จำเลยแล้ว โจทก์จึงนำสัญญาจำนองมาฟ้องบังคับจำเลยไม่ได้ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 79,900 บาทพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์หากไม่ชำระให้บังคับจำนองเอาทรัพย์สินของจำเลยออกขายทอดตลาดชำระหนี้
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า จำเลยฎีกาว่าหนังสือบอกกล่าวของทนายโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.3 เป็นการบอกเลิกสัญญาจำนองไม่ใช่เป็นการบอกกล่าวบังคับจำนองตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาพิเคราะห์ข้อความในหนังสือบอกกล่าวของทนายโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.3 แล้วมีความว่า “นางสาวศิริวรรณได้มอบอำนาจให้ข้าพเจ้าใช้สิทธิเรียกร้องและบอกเลิกสัญญาจำนองต่อท่าน ดังนั้นด้วยหนังสือฉบับนี้ข้าพเจ้าขอให้ท่านไปจัดการไถ่ถอนจำนองที่ดินทั้ง 3 โฉนดภายในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2523หากพ้นกำหนดไปแล้วท่านเพิกเฉยเสียก็ดี มิได้มาติดต่อตกลงกับข้าพเจ้าหรือนางสาวศิริวรรณให้เป็นที่เรียบร้อยก็ดี ข้าพเจ้าจำเป็นจะต้องดำเนินคดีกับท่านตามที่ได้รับมอบหมายไว้” ข้อความดังกล่าวสรุปได้ว่า ให้จำเลยชำระหนี้โดยจัดการไถ่ถอนจำนองภายในเวลาที่กำหนดไว้ ถ้าจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำบอกกล่าว โจทก์ผู้รับจำนองจะฟ้องคดีต่อศาลเพื่อบังคับตามสัญญาจำนองต่อไป หาใช่เป็นการบอกเลิกสัญญาเพื่อให้สัญญาจำนองไม่มีผลบังคับดังที่จำเลยเข้าใจไม่ คำบอกกล่าวของทนายโจทก์ตามเอกสารหมาย จ.3 เป็นคำบอกกล่าวบังคับจำนองที่ชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 728 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว
พิพากษายืน