แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กรณีที่ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตให้จำคุกจำเลย 3 เดือน และปรับ และศาลอุทธรณ์เพียงแต่พิพากษาแก้ไม่ลงโทษปรับนั้นถือว่าเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ฉะนั้น การที่โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยทั้งจำทั้งปรับ จึงเป็นฎีกาเกี่ยวด้วยดุลพินิจในการกำหนดโทษของศาลซึ่งเป็นปัญหาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีอาวุธปืนลูกซองสั้นทำในประเทศไทยไม่มีเลขหมายทะเบียนประทับ 1 กระบอก กับกระสุนปืนลูกซอง 5 นัดโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ขอให้ลงโทษและริบของกลาง
จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ให้จำคุก 6 เดือนและปรับ 2,100 บาท จำเลยให้การรับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน และปรับ 1,050 บาทของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์เฉพาะขอให้ยกโทษปรับ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำคุกจำเลยไว้ 3 เดือนเพียงสถานเดียว
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกและปรับจำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่า คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เพียงแต่แก้ไขไม่ลงโทษปรับเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการแก้บท เป็นการแก้ไขเล็กน้อย ที่โจทก์ฎีกาว่าสมควรจะลงโทษจำคุกสถานเดียวหรือจำคุกและปรับจำเลย นั้นเป็นดุลพินิจของศาลเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ฎีกาของโจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ให้ยกฎีกาโจทก์