คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3010/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้จำเลยจะให้การต่อสู้ไว้ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมแต่ในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นไว้ คงกำหนดประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยในข้ออื่นไว้เพียง 3 ข้อ และจำเลยก็มิได้คัดค้านว่าประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดนั้นไม่ถูกต้องแต่ประการใด ดังนี้ จำเลยจะยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมอีกไม่ได้ เพราะไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 4 เป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 ทำหน้าที่ขับรถยนต์ในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 1,2 และ 3 โดยประมาทเป็นเหตุให้ชนกับรถซึ่งนายมนู ทับทิม สามีโจทก์ที่ 1 ขับสวนทางมาและนายมนูถึงแก่ความตาย เป็นเหตุให้โจทก์ทั้งสองขาดไร้อุปการะและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลและค่าปลงศพ รวมเป็นเงิน465,000 บาท ขอให้จำเลยทั้งสี่ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแก่โจทก์

จำเลยที่ 1 ให้การว่า นายมนูผู้ตายไม่ใช่สามีโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์ที่ 1 จำเลยที่ 4 ไม่ใช่ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 และไม่ได้ขับรถโดยประมาท ค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้องสูงเกินไป

จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 4 ไม่ได้ขับรถโดยประมาทโจทก์เรียกร้องค่าเสียหายสูงเกินไป ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม เพราะไม่บรรยายรายละเอียดว่าเสียหายอย่างไร

จำเลยที่ 3 จำเลยที่ 4 ไม่ใช่ลูกจ้าง และไม่ได้ขับรถโดยประมาทค่าเสียหายที่เรียกร้องสูงเกินสมควร

จำเลยที่ 4 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา

ศาลชั้นต้นกำหนดประเด็นแห่งคดีว่า

1. โจทก์เป็นภรรยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนายมนูผู้ตายหรือไม่

2. ความตายของนายมนูเกิดจากความประมาทของจำเลยที่ 4หรือไม่

3. ค่าเสียหาย

ศาลชั้นต้นฟังว่า โจทก์ที่ 1 เป็นภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายโจทก์ที่ 2 เป็นบุตรของผู้ตายเกิดกับโจทก์ที่ 1 รถชนกันเพราะความประมาทของจำเลยที่ 4 จำเลยที่ 1 และ 2 มีผลประโยชน์และเป็นนายจ้างของจำเลยที่ 4 จึงต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 4 พิพากษาให้จำเลยที่ 1, 2 และ 4 ใช้ค่ารักษาพยาบาลให้โจทก์ 4,600 บาทค่าทำศพ 3,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะสำหรับโจทก์ที่ 1 เป็นเงิน20,000 บาท สำหรับโจทก์ที่ 2 เป็นเงิน 235,000 บาท ให้ยกฟ้องสำหรับจำเลยที่ 3

จำเลยที่ 1, 2 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 1, 2 ฎีกา

ข้อที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า ฟ้องของโจทก์เคลือบคลุมไม่บรรยายรายละเอียดว่า ค่าขาดไร้อุปการะ ค่าปลงศพ ค่ารักษาพยาบาลมีอะไรเท่าใด ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172นั้น ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าจำเลยที่ 1 ไม่ได้ต่อสู้ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม จำเลยที่ 1 จึงฎีกาในข้อนี้ไม่ได้ ส่วนจำเลยที่ 2 นั้น แม้จะให้การต่อสู้ว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม แต่ในชั้นพิจารณาศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นไว้ คงกำหนดประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยไว้เพียง 3 ข้อดังกล่าวข้างต้น คู่ความก็มิได้คัดค้านว่าประเด็นที่ศาลชั้นต้นกำหนดนั้นไม่ถูกต้องแต่ประการใด จึงต้องเป็นไปตามนั้น และศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยชี้ขาดคดีไปตามประเด็นที่กำหนดไว้ จำเลยที่ 2 จะยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นฎีกาอีกไม่ได้ เพราะไม่เป็นประเด็นที่ได้ว่ากล่าวกันมาในศาลชั้นต้น ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยฎีกาข้อนี้ให้

ศาลฎีกาวินิจฉัยในประเด็นข้ออื่นว่า จำเลยที่ 4 ขับรถในกิจการของจำเลยที่ 1 โดยประมาท จำเลยที่ 1 จึงต้องร่วมรับผิดค่าสินไหมทดแทนที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้โจทก์นั้นชอบด้วยรูปคดีแล้ว

พิพากษายืน

Share