คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2482/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 เป็นบทบังคับให้ศาลต้องสั่งเรื่องความรับผิดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดีส่วนการที่จะสั่งให้คู่ความฝ่ายใดชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมากน้อยเพียงใดให้ศาลใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความหรือการดำเนินคดีของคู่ความทั้งปวงแม้จะให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับกันไป ศาลก็ต้องสั่ง แต่ค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความนั้น นอกจากค่าธรรมเนียมศาลแล้วยังมีค่าป่วยการพยาน ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมในการส่งเอกสารและบังคับคดี และค่าฤชาธรรมเนียมหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ บรรดาที่กฎหมายบังคับให้เสีย การที่ศาลอุทธรณ์สั่งเฉพาะค่าทนายความให้จำเลยใช้แทนโจทก์ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมอื่น ๆ มิได้วินิจฉัยถึง จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้ทำสัญญาจ้างให้โจทก์ก่อสร้างอาคารสำนักงาน รพช. และอาคารศูนย์ซ่อมเครื่องจักรกลในราคา 722,000 บาทโดยโจทก์ไม่ต้องติดตั้งหรือก่อสร้างทั้งไฟฟ้าและประปา โจทก์ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จตามสัญญา แต่จำเลยอ้างว่าโจทก์ไม่มีหม้อแปลงไฟฟ้า 1 หม้อติดตั้งให้จำเลย จำเลยจึงชำระเงินให้โจทก์ขาดไป 32,752 บาท ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวนดังกล่าวพร้อมด้วยดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเงินเสร็จ และให้จำเลยใช้ค่าเสียหายและค่าขาดผลประโยชน์อีก 5,000 บาท

จำเลยให้การว่า ตามสัญญาก่อสร้าง โจทก์ต้องติดตั้งไฟฟ้าและประปาด้วย โจทก์ไม่ยอมติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้า 1 หม้อให้จำเลยจำเลยจึงหักเงินไว้ 32,752 บาท โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายและค่าขาดประโยชน์จากจำเลย

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ตามสัญญาจ้างก่อสร้าง โจทก์มีหน้าที่ติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าเมื่อโจทก์ไม่ติดตั้ง จำเลยมีอำนาจหักเงินค่าหม้อแปลงไฟฟ้าไว้ได้ พิพากษายกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยไม่มีความประสงค์จะให้ติดตั้งไฟฟ้าภายนอกอาคาร ซึ่งรวมทั้งหม้อแปลงไฟฟ้าด้วย พิพากษากลับให้จำเลยชำระค่าก่อสร้างที่ยังค้างอยู่ 32,752 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7 ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเงินเสร็จให้จำเลยเสียค่าทนายความทั้งสองศาลเป็นเงิน 1,500 บาทแทนโจทก์

โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยถึงเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้โจทก์นั้น เป็นการไม่ชอบ

จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้องโจทก์

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีหน้าที่ต้องติดตั้งหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งอยู่ภายนอกอาคาร ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยชำระเงินค่าจ้างก่อสร้าง 32,752 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยให้โจทก์นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย

ที่โจทก์ฎีกาว่า ที่ศาลอุทธรณ์มิได้วินิจฉัยถึงเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมที่จำเลยจะต้องชดใช้ให้โจทก์ไม่ชอบนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 เป็นบทบังคับให้ศาลต้องสั่งเรื่องความรับผิดสำหรับค่าฤชาธรรมเนียมของคู่ความในคดี ส่วนการที่จะสั่งให้คู่ความฝ่ายใดชดใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งมากน้อยเพียงใด ให้ศาลใช้ดุลพินิจโดยคำนึงถึงเหตุสมควรและความสุจริตในการสู้ความ หรือการดำเนินคดีของคู่ความทั้งปวง แม้จะให้ค่าฤชาธรรมเนียมเป็นพับกันไป ศาลก็ต้องสั่งและค่าฤชาธรรมเนียมนั้น นอกจากค่าธรรมเนียมศาลแล้ว ยังมีค่าป่วยการพยานค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมในการส่งเอกสาร และการบังคับคดี และค่าฤชาธรรมเนียมหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ บรรดาที่กฎหมายบังคับให้เสีย แต่คดีนี้ศาลอุทธรณ์สั่งเฉพาะค่าทนายความให้จำเลยใช้แทนโจทก์ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมอื่น ๆ มิได้วินิจฉัยถึง จึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 และศาลฎีกาเห็นสมควรให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมอื่น ๆ ทั้งสองศาลแทนโจทก์ด้วย ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น

พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เป็นว่า ให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสองศาลแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความทั้งสองศาลให้จำเลยใช้แทนโจทก์ 1,500 บาท นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาแทนโจทก์ด้วย โดยกำหนดค่าทนายความให้เป็นเงิน 750 บาท

Share