แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายรูปร่างใหญ่กว่าจำเลยและสูงกว่าจำเลย 3-4 นิ้ว คืนเกิดเหตุฝนตกและเดือนมืด ผู้ตายเดินตามจำเลยไปจนทันแล้วผู้ตายกับจำเลยยืนหันหน้าเข้าหากันผู้ตายใช้มือขวาจับคอด้านหลังของจำเลยไว้และใช้มือซ้ายถือไม้รวกตีจำเลยถูกที่ต้นคอ แก้ม และที่หน้าผากรุนแรงหลายทีจนหน้าผากมีรอยบุ๋ม จำเลยเอามีดปลายแหลมแทงสวนไปในที่มืดในระยะประชิดติดพัน 2 ทีโดยไม่มีโอกาสเลือกแทงให้ถูกที่สำคัญ แผลแรกเพียงผิวหนังขาดเลือดซึม เมื่อผู้ตายยังไม่หยุดตีจำเลย จำเลยจึงแทงผู้ตายอีกทีหนึ่งเพื่อหยุดยั้งการตีถูกผู้ตายที่ใต้นมขวาบนสะดือ ลึกทะลุเข้าไปในทรวงอกถึงแก่ความตาย เช่นนี้ถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำเลยให้การปฏิเสธในการสืบพยาน โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานในขณะเกิดเหตุคงมีพยานเพียงว่าได้ยินเสียงผู้ตายร้องบอกภริยาว่าจำเลยแทงตนเท่านั้น ส่วนจำเลยนำสืบว่าจำเลยแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตนดังนี้ ศาลย่อมวินิจฉัยพยานหลักฐานของโจทก์ประกอบพยานหลักฐานของจำเลยว่าจำเลยกระทำเพื่อป้องกันจริงหรือไม่
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงนายจันทร์เตียวโดยแรง 2 ที ถูกที่บริเวณใต้ราวนมขวา โดยมีเจตนาฆ่า นายจันทร์เตียว ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และริบมีดของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 จำคุก 18 ปี คำให้การชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณาเป็นประโยชน์ ลดโทษให้หนึ่งในสาม จำคุก 12 ปี ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยกับผู้ตายเล่นการพนันไพ่ป๊อกกันที่เรือนนายเฉย ขณะเล่นกันอยู่ ผู้ตายต่อว่าจำเลยว่าจำเลยเล่นไพ่โกงผู้ตายไม่ยอมจ่ายเงินแสดงสีหน้าไม่พอใจจำเลย จำเลยพูดว่า เงินบาทเดียวไม่จ่ายก็ไม่เอา กลับดีกว่าขืนเล่นจะมีเรื่อง แล้วจำเลยลงจากเรือนนายเฉยไป อีกราว 2 นาที ผู้ตายตามจำเลยไป แล้วผู้ตายใช้ไม้รวกตีจำเลยก่อนหลายที จำเลยจึงแทงผู้ตายเพื่อป้องกันตน ผู้ตายรูปร่างใหญ่กว่าจำเลยและสูงกว่าจำเลยประมาณ 3 หรือ 4 นิ้ว คืนเกิดเหตุฝนตกและมืด ผู้ตายกับจำเลยยืนหันหน้าเข้าหากัน ผู้ตายยืดแขนขวาใช้มือจับคอด้านหลังของจำเลยไว้ และใช้มือซ้ายถือไม้รวกเงื้อขึ้นตีจำเลยด้านหน้า จำเลยถูกตีที่ต้นคอ แก้มที่หน้าผากจนมีรอยบุ๋ม แสดงว่าผู้ตายตีจำเลยรุนแรงและตีหลายทีในภาวะเช่นนั้นจำเลยไม่อาจรู้ได้ว่าผู้ตายจะหยุดตีจำเลยเมื่อใด จำเลยเอามีดปลายแหลมแทงผู้ตายสวนไปในที่มืด ในขณะที่ผู้ตายยืดแขนขวาใช้มือจับคอจำเลยไว้ในระยะประชิดติดพัน 2 ที ผู้ตายมีบาดแผลถูกจำเลยแทง 2 แผล แผลหนึ่งเพียงแต่ผิวหนังขาดเลือดซึม ชี้ให้เห็นว่าจำเลยไม่มีโอกาสเลือกแทงให้ถูกที่สำคัญ และน่าเชื่อว่าจำเลยแทงถูกผู้ตายที่แผลนี้ก่อนเมื่อผู้ตายยังไม่หยุดดีจำเลย จำเลยจึงแทงผู้ตายอีกทีหนึ่งเพื่อหยุดยั้งผู้ตายให้เลิกตีจำเลย ผู้ตายจึงถูกแทงที่ใต้นมขวาบนสะดือ ลึกทะลุเข้าไปในทรวงอก เช่นนี้ ถือได้ว่าเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ จำเลยไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68
พิพากษากลับให้ยกฟ้อง มีดของกลางคืนจำเลย