คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1707/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ซึ่งเป็นบิดาจำเลย ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดก จำเลยย่อมฟ้องแย้งในฐานะผู้จัดการมรดกได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534(ประชุมใหญ่ครั้งที่18/2515)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์กับนางฉลวย กล้ากลางสมร แต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันมาตั้งแต่ พ.ศ. 2462 นางฉลวย กล้ากลางสมรถึงแก่กรรมแล้ว ศาลมีคำสั่งตั้งจำเลยบุตรโจทก์เป็นผู้จัดการมรดกก่อนถึงแก่กรรมนางฉลวย กล้ากลางสมร มีที่ดินอันเป็นสินบริคณห์รวมทั้งสิ้นเป็นเงิน 11,920,000 บาท โจทก์มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งสินบริคณห์ในอัตรา 2 ใน 3 ส่วน เป็นเงิน 7,946,666 บาท จำเลยไม่ยอมแบ่งให้ ขอให้ศาลพิพากษาบังคับจำเลยแบ่งสินบริคณห์ดังกล่าวให้โจทก์เป็นเงิน 7,946,666 บาท

จำเลยให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยเป็นผู้จัดการมรดกนางฉลวยกล้ากลางสมร จริง ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่เคยทวงถามให้จำเลยจัดการแบ่งมรดกเพราะโจทก์เก็บค่าเช่าที่ดินของกองมรดกจำเลยเรียกร้องให้โจทก์ส่งทรัพย์สินของเจ้ามรดกและค่าเช่านาที่โจทก์เก็บไว้รวม 700,000 บาท เมื่อหักส่วนแบ่งสินบริคณห์ของโจทก์2 ใน 3 ส่วน คงเป็นมรดก 233,333.33 บาท โจทก์เพิกเฉย ขอให้พิพากษายกฟ้องโจทก์และบังคับตามฟ้องแย้งของจำเลย ให้โจทก์ส่งทรัพย์ตามบัญชีท้ายคำให้การ หากส่งไม่ได้ให้ใช้ราคา 660,200 บาทแก่จำเลย กับให้โจทก์ใช้ค่าเช่านารวม 233,333.33 บาท และค่าเช่าปีละ 116,666.66 บาท นับแต่ พ.ศ. 2513 จนกว่าโจทก์จะส่งที่นาแก่จำเลย

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งรับคำให้การจำเลย ส่วนฟ้องแย้งไม่รับ เพราะต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1534

จำเลยอุทธรณ์คำสั่งขอให้รับฟ้องแย้ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า มาตรา 1534 เป็นบทบัญญัติที่ตัดสิทธิ จำเป็นที่จะต้องแปลความโดยเคร่งครัด คดีนี้ โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของนางฉลวย กล้ากลางสมร ขอให้จำเลยแบ่งสินบริคณห์จากกองมรดกให้โจทก์ในฐานะคู่สมรส อันเป็นกรณีพิพาทระหว่างโจทก์กับผู้จัดการมรดกของภรรยาโจทก์ หาใช่ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวที่เป็นบุตรโจทก์ อันจะพึงถือว่าเป็นกรณีพิพาทระหว่างบิดากับบุตรไม่ ฉะนั้น ที่จำเลยฟ้องแย้ง จึงเป็นฟ้องแย้งในฐานะผู้จัดการมรดกฟ้องแย้ง มิใช่ฟ้องแย้งในฐานะส่วนตัวที่เป็นบุตร หรือฟ้องแย้งในนามของบุตรโจทก์ซึ่งเป็นทายาทของนางฉลวย อันจะถือเท่ากับบุตรฟ้องบิดาดังคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาโดยที่ประชุมใหญ่มีมติว่า ฟ้องแย้งของจำเลยไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1534

พิพากษากลับ ให้ศาลชั้นต้นรับฟ้องแย้งของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป

Share