คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 950/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การขอให้งดขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้ก่อนเป็นเรื่องขอให้งดการบังคับคดีการงดการบังคับคดีนั้นงดได้เฉพาะการบังคับคดีที่ยังไม่ได้กระทำหรือที่จะกระทำต่อไป จะงดการบังคับคดีที่ได้ปฏิบัติมาแล้วมิได้
เมื่อจำเลยอุทธรณ์ขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ แต่ปรากฏว่าได้มีการขายทอดตลาดทรัพย์ไปแล้วก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาดังนี้ ศาลอุทธรณ์หามีอำนาจที่จะสั่งให้งดการขายทอดตลาดอีกไม่จะพิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดรวมทั้งการขายทอดตลาดเสียนั้นก็ไม่ได้ เพราะไม่ใช่เป็นการงดการบังคับคดีแต่เป็นการเพิกถอนการบังคับคดี ซึ่งต่างประเด็นกัน
จำเลยอุทธรณ์เพียงแต่ขอให้ศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจสั่งให้งดการบังคับคดีไว้ ไม่ได้ขอให้เพิกถอนการบังคับคดีโดยมีข้ออ้างว่าได้ปฏิบัติมาไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด ดังนี้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้เพิกถอนมิได้ เพราะเกินคำขอของจำเลยซึ่งเป็นโจทก์อุทธรณ์ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142 ประกอบด้วยมาตรา 246

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองฎีกาและจำเลยที่ 1 ร้องขอทุเลาการบังคับศาลฎีกาสั่งให้จำเลยหาประกัน มิฉะนั้นให้ยกคำร้อง จำเลยไม่หาประกัน โจทก์จึงขอบังคับคดีนำยึดทรัพย์ของจำเลยมาขายทอดตลาด

จำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการขายทอดตลาดไว้จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้จำเลยนำเงินที่จะต้องชำระตามคำพิพากษามาวางศาลภายใน 10 วัน มิฉะนั้นให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดได้

จำเลยอุทธรณ์ว่า ที่สั่งให้จำเลยนำเงินมาวางนั้นไม่จำเป็นเพราะทรัพย์ที่โจทก์นำยึดเป็นหลักประกันเพียงพอแล้ว ขอให้พิพากษากลับเป็นให้รอหรืองดการขายไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ต่อมาจำเลยยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ พร้อมกับร้องขอให้งดการขายทอดตลาดไว้ก่อนจนกว่าศาลอุทธรณ์จะสั่งรับหรือไม่รับอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าขายทอดตลาดทรัพย์ไปแล้ว งดการโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อไว้ชั่วคราวเพื่อรอฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์สั่งให้รับอุทธรณ์จำเลยและเห็นว่า ศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจให้ขายทอดตลาดทรัพย์รายนี้ยังไม่ชอบด้วยเหตุผล แม้ระหว่างอุทธรณ์จะได้มีการขายทอดตลาดและศาลชั้นต้นสั่งขายให้แก่โจทก์ผู้ให้ราคาสูงสุดแล้ว แต่ยังมิได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ยึดเป็นของโจทก์หรือบุคคลที่สาม ศาลอุทธรณ์ย่อมเพิกถอนคำสั่งศาลชั้นต้นเสียได้ พิพากษายกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ขายทรัพย์ที่ยึดและการขายทอดตลาดทรัพย์นั้นเสียให้รอการขายไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุด

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า การขอให้งดการขายทอดตลาดตามอุทธรณ์ของจำเลย เป็นเรื่องขอให้งดการบังคับคดี และการบังคับคดีนั้นงดได้เฉพาะการบังคับคดีที่ยังไม่ได้กระทำหรือที่จะต้องกระทำต่อไปจะงดการบังคับคดีที่ได้ปฏิบัติมาแล้วไม่ได้ เมื่อคดีนี้ปรากฏว่าการบังคับคดีได้ดำเนินมาจนถึงกับได้ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไปแล้วก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษา ศาลอุทธรณ์จึงไม่มีอำนาจที่จะมีคำสั่งให้งดการขายทอดตลาดไว้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 292(2) อีกได้ การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ยกเลิกคำสั่งของศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดรวมทั้งการขายทอดตลาดทรัพย์ดังกล่าวเสียนั้น ไม่ใช่งดการบังคับคดี แต่เป็นการเพิกถอนการบังคับคดี ซึ่งต่างประเด็นกับอุทธรณ์ของจำเลย เมื่ออุทธรณ์ของจำเลยเพียงแต่ขอให้งดการบังคับคดีไว้ ไม่ได้ขอให้เพิกถอนการบังคับคดีโดยมีข้ออ้างว่าได้ปฏิบัติมาไม่ชอบด้วยกฎหมายประการใด ศาลอุทธรณ์ก็ย่อมจะพิพากษาให้เพิกถอนไม่ได้ เพราะเกินคำขอของจำเลยซึ่งเป็นโจทก์อุทธรณ์ ขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142, 246

พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ยกคำร้องของจำเลยที่ขอให้งดการขายทอดตลาดทรัพย์ที่ยึดไว้นั้นเสีย

Share