คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 นั้น หากจำเลยนำเงินกู้ตามคำพิพากษามาวางศาลเพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์แล้ว โจทก์ก็ไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้จำเลยอันจะขอให้เพิกถอนต่อไป

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องเรียกเงินกู้จากจำเลยที่ 1 ที่ 2 ซึ่งทำสัญญากู้ไปจากโจทก์สามคราวเป็นเงิน 22,500 บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยรวมเป็นเงิน25,312.50 บาท กับขอให้สั่งเพิกถอนนิติกรรมโอนกรรมสิทธิ์โฉนดที่ดินที่ 49 ระหว่างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย และเป็นการเอาเปรียบโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้หากไม่สามารถเพิกถอนได้ ก็ให้จำเลยใช้เงิน 25,312.50 บาทแก่โจทก์ และให้จำเลยเสียดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีในเงินต้น 22,500 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ

จำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินจำนวน 2,500 บาทไปจากโจทก์จริง ไม่เคยกู้เงินครั้งที่ 2 และที่ 3

จำเลยที่ 3 ให้การว่ารับซื้อนาพิพาทจากจำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นเงิน 20,000 บาทโดยสุจริต และได้จดทะเบียนต่อพนักงานที่ดินไม่ปรากฏว่าโจทก์หรือผู้ใดคัดค้าน

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ใช้หนี้เงินกู้แก่โจทก์ 2,500 บาทกับดอกเบี้ยร้อยละ 7 ครึ่งต่อปีนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาขายที่นาพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 คำขออื่นให้ยก

โจทก์และจำเลยที่ 3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกับศาลชั้นต้นว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไปครั้งเดียว 2,500 บาท และเห็นว่าหลังจากศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจำเลยที่ 1 ได้นำเงินมาวางต่อศาลเพื่อชำระให้โจทก์ตามคำพิพากษาแล้ว ไม่มีหนี้อันใดที่จำเลยที่ 1 จะต้องชำระให้โจทก์อีก โจทก์มิใช่ผู้เสียหายแล้ว ย่อมไม่มีประโยชน์ที่ศาลอุทธรณ์จะสั่งให้เพิกถอนนิติกรรมสัญญาขายที่ดินระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า ไม่ต้องเพิกถอนนิติกรรมสัญญาขายที่พิพาทระหว่าง จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 นอกจากที่แก้นี้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงอย่างเดียวกับศาลอุทธรณ์ว่า จำเลยกู้เงินโจทก์ไป 2,500 บาท และเห็นว่าเมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้นำเงิน 2,500 บาทมาวางต่อศาลเพื่อชำระให้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาพร้อมทั้งค่าฤชาธรรมเนียมและค่าทนายความหมดสิ้นแล้ว จึงไม่อยู่ในฐานะเป็นเจ้าหนี้จำเลยอันจะขอให้เพิกถอนการโอนขายที่พิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 3 ได้อีกต่อไป ข้อวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ชอบด้วยรูปคดีแล้ว

พิพากษายืน

Share