คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เมื่อได้ความชัดแจ้งอยู่แล้ว แม้จะให้มีการสืบพยานกันต่อไป ก็ได้ความเช่นเดียวกับคำร้องขอและคำแถลงรับของผู้ร้อง ศาลก็ชอบที่จะสั่งงดสืบพยานและพิพากษาคดีไปได้
ทำสัญญาซื้อขายอสังหาริมทรัพย์กันเอง โดยมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ แม้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ซื้อจะครอบครองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมา โดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีแล้วก็ตาม จะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ผู้จำนองอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไว้จากจำเลยและจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตไม่ได้

ย่อยาว

ในชั้นนี้เป็นสาขาคดีเนื่องจากโจทก์นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินและสิ่งปลูกสร้างซึ่งปลูกอยู่ในที่ดิน โดยอ้างว่าเป็นของจำเลยที่ 2 เพื่อขายทอดตลาด ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่าทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง โดยจำเลยที่ 2 ขายให้ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2501 และผู้ร้องได้ถือสิทธิครอบครองทรัพย์ดังกล่าวนับแต่นั้นมา ขอให้ถอนการยึด

โจทก์ให้การว่าทรัพย์ที่ยึดมาเป็นของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 จำนองไว้กับโจทก์โดยจดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นผู้ได้สิทธิมาโดยสุจริต เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนจำนองต่อพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว คำร้องขอของผู้ร้องเคลือบคลุม

วันนัดชี้สองสถาน ผู้ร้องแถลงว่าสัญญาซื้อขายทรัพย์ดังกล่าวนี้ทำกันเองมิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และรับว่าทรัพย์ที่ผู้ร้องขัดทรัพย์จำเลยที่ 2 ได้นำไปจำนองไว้กับโจทก์ และมีการจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผู้ร้องมิได้รู้เห็นยินยอมด้วย

ศาลชั้นต้นเห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้แล้ว จึงให้งดสืบพยานแล้ววินิจฉัยว่าคำร้องขอของผู้ร้องไม่เคลือบคลุม แต่การซื้อขายเป็นโมฆะ ผู้ร้องจะนำสืบว่าได้ครอบครองทรัพย์พิพาทเรื่อยมาจนได้กรรมสิทธิ์ก็ไม่ชอบด้วยหลักกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เพราะคำร้องของผู้ร้องมิได้บรรยายประเด็นนี้ไว้ จึงให้ยกคำร้อง

ผู้ร้องอุทธรณ์ขอให้ดำเนินกระบวนพิจารณาสืบพยานต่อไปแล้วพิพากษาใหม่ตามรูปคดี

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ถึงแม้จะฟังว่าจำเลยที่ 2 ได้โอนขายทรัพย์พิพาทรายนี้ให้แก่ผู้ร้องแต่ยังมิได้จดทะเบียน และผู้ร้องได้ครอบครองทรัพย์พิพาทนี้มาโดยความสงบและเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของกว่า 10 ปีขึ้นไปจนได้กรรมสิทธิ์แล้วก็ตาม แต่เมื่อจำเลยที่ 2 ได้จำนองทรัพย์พิพาทไว้กับโจทก์และมีการจดทะเบียนการจำนองถูกต้องตามกฎหมายโดยไม่ปรากฏว่าการจำนองนั้นไม่สุจริตแต่อย่างใดก็ต้องฟังว่าการจำนองรายนี้โจทก์ได้เสียค่าตอบแทนและจดทะเบียนด้วยความสุจริตย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้ร้องซึ่งยังมิได้จดทะเบียน เมื่อได้ความชัดแจ้งอยู่แล้วเช่นนี้ แม้จะให้มีการสืบพยานกันต่อไป ก็ได้ความเช่นเดียวกับคำร้องขอและคำแถลงรับของผู้ร้องจึงไม่จำต้องดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่

พิพากษายืน

Share