คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1284/2527

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ข้อตกลงซื้อสินค้ารายพิพาทเป็นการซื้อขายกันด้วยเงินสดเมื่อจำเลยในฐานะผู้ซื้อยอมรับมอบสินค้าไว้จำเลยก็ต้องชำระราคาสินค้านั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา486การที่จำเลยไม่ชำระราคาขณะส่งมอบและยอมคืนสินค้าแก่ผู้คัดค้านไปแสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะซื้อสินค้าต่อไปแล้วผู้คัดค้านจึงมีสิทธินำสินค้ากลับคืนได้กรณีเช่นนี้หาใช่เป็นการรับเอาสินค้านั้นเป็นการตีใช้หนี้ค่าสินค้าชำระแทนไม่จึงไม่เข้าข่ายการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใดๆซึ่งจำเลยได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำโดยมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใด ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อื่นอันจะเป็นเหตุให้เพิกถอนการชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพ.ศ.2483 มาตรา 115

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) เด็ดขาดเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2519 และพิพากษาให้ล้มละลายเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2520 ต่อมาวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2522 เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ได้ยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ขอให้เรียกเอาทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ซึ่งบริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด ได้เอากลับคืนไป

เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ยื่นคำร้องว่า เดิมลูกหนี้ (จำเลย) เป็นหนี้ค่าสินค้าเชื่อบริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด ประมาณ 6-7 แสนบาท ต่อมาลูกหนี้ (จำเลย) ซื้อสินค้าอีก60,000 บาท ได้รับมอบสินค้าแล้ว เนื่องจากลูกหนี้ (จำเลย) เป็นหนี้ค่าสินค้าอยู่บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด ได้เรียกคืนสินค้าซึ่งเป็นทรัพย์ของลูกหนี้ (จำเลย) ตีใช้หนี้เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2519 เป็นเงิน 60,000 บาท อันเป็นการกระทำที่มุ่งหมายให้ได้เปรียบเจ้าหนี้อื่น ทั้งเป็นการกระทำก่อนจะมีการร้องขอให้ลูกหนี้ (จำเลย) เป็นบุคคลล้มละลายเพียง 2 วัน ขอให้เพิกถอนการชำระหนี้รายนี้

บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด ยื่นคำคัดค้านว่า (จำเลย) เป็นหนี้ค่าสินค้าอยู่เจ็ดแสนบาทเศษ ลูกหนี้ (จำเลย) ยังขอซื้อสินค้าอีก ผู้คัดค้านก็ยินดีจะขายให้แต่ต้องชำระเงินสดเมื่อลูกหนี้ (จำเลย) ไม่ยอมชำระราคา ผู้คัดค้านจึงรับสินค้าคืนสินค้าดังกล่าวเป็นของผู้คัดค้าน ไม่ใช่ของลูกหนี้ (จำเลย) และไม่เคยตีราคาสินค้าชำระหนี้ในจำนวนเงิน60,000 บาท แก่ผู้คัดค้าน

ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้เพิกถอนการชำระหนี้ค่าสินค้าในจำนวนเงิน 55,000 บาทระหว่างลูกหนี้ (จำเลย) กับผู้คัดค้าน

ผู้คัดค้านอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกคำร้องของผู้ร้อง

ผู้ร้องฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามข้อตกลงการซื้อสินค้ารายพิพาทระหว่างผู้คัดค้านกับจำเลยเป็นการซื้อขายกันด้วยเงินสด เมื่อจำเลยในฐานะผู้ซื้อยอมรับมอบสินค้าที่ซื้อไว้จำเลยก็จำต้องชำระราคาค่าสินค้านั้นตามข้อสัญญาซื้อขายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 486 การที่จำเลยไม่ชำระราคาค่าสินค้าขณะส่งมอบและยอมคืนสินค้าแก่ผู้คัดค้านไป ดังนี้ แสดงว่า จำเลยไม่ประสงค์จะซื้อสินค้านั้นต่อไปแล้ว ผู้คัดค้านซึ่งเป็นเจ้าของสินค้าจึงมีสิทธินำสินค้าของตนกลับคืนได้การที่ผู้คัดค้านเอาสินค้ากลับคืนในกรณีดังกล่าวหาใช่เป็นการรับเอาสินค้านั้นเป็นการตีใช้หนี้ค่าสินค้าชำะรแทนไม่ กรณีไม่เข้าข่ายของการโอนทรัพย์สินหรือการกระทำใด ๆซึ่งจำเลยได้กระทำหรือยินยอมให้กระทำโดยมุ่งหมายให้เจ้าหนี้คนหนึ่งคนใด ได้เปรียบแก่เจ้าหนี้อันจะเป็นเหตุให้เพิกถอนการชำระหนี้ตามความในมาตรา 115 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483

พิพากษายืน

Share