แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยผลิตกัญชาโดยการแบ่งจากแท่งบรรจุถุงพลาสติกเล็ก ๆ ซึ่งเป็นกัญชาส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นกัญชาจำนวนเดียวกันเพียงแต่จำเลยแบ่งบรรจุเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยมีกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 จำนวน1 แท่ง น้ำหนัก 47 กรัม และจำนวน 10 ถุง น้ำหนัก 11 กรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น58 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยผลิตกัญชาโดยการแบ่งจากแท่งบรรจุถุงพลาสติกเล็ก ๆ จำนวน 10 ถุง ซึ่งเป็นกัญชาส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 75, 102 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91และริบของกลาง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, 75 วรรคหนึ่ง, 76 วรรคสองการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานผลิตกัญชาจำคุก 2 ปี ฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายจำคุก 2 ปี รวมจำคุก 4 ปี จำเลยให้การับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 2 ปี 8 เดือน ริบของกลาง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีนี้ต้องห้ามไม่ให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ในการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลฎีกาต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลอุทธรณ์ภาค 9 ได้วินิจฉัยมาแล้ว จากพยานหลักฐานในสำนวนตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 222 ศาลอุทธรณ์ภาค 9ฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยมีกัญชาอันเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 จำนวน 1 แท่งน้ำหนัก 47 กรัม และจำนวน 10 ถุง น้ำหนัก 11 กรัม รวมน้ำหนักทั้งสิ้น 58 กรัมไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำเลยผลิตกัญชาโดยการแบ่งจากแท่งบรรจุถุงพลาสติกเล็ก ๆ จำนวน 10 ถุง ซึ่งเป็นกัญชาส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ปัญหาวินิจฉัยตามฎีกาข้อกฎหมายของจำเลยมีว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรม เห็นว่า จำเลยผลิตกัญชาโดยการแบ่งจากแท่ง ซึ่งเป็นกัญชาส่วนหนึ่งที่จำเลยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นกัญชาจำนวนเดียวกัน เพียงแต่จำเลยแบ่งบรรจุเท่านั้น การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลล่างทั้งสองลงโทษจำเลยทุกกรรมไม่ชอบฎีกาของจำเลยฟังขึ้น”
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษพ.ศ. 2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, 75 วรรคหนึ่ง, 76 วรรคสอง การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ความผิดฐานผลิตกัญชาและฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย มีอัตราโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานผลิตกัญชาจำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 คงจำคุก 1 ปี 4เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 9