แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ท. เคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บกระสุนปืนเข้ากระดูกสันหลัง ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล ท. ทำสัญญาประกันชีวิตไว้กับจำเลย ก่อนทำสัญญาประกันชีวิต แพทย์ตรวจร่างกาย ท. และมีความเห็นว่า ท. มีสุขภาพปกติเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป ต่อมารถบรรทุกชนรถจักรยานยนต์ที่ ท.ขับขี่ท. ถึงแก่กรรม ดังนี้ จำเลยมิได้นำสืบว่าอาการบาดเจ็บที่ ท. ได้รับมาจากการถูกยิงจะเป็นสาเหตุให้ ท. ถึงแก่กรรมเร็วกว่าระยะเวลาในสัญญาประกันชีวิต และเหตุที่ ท. ถึงแก่กรรมก็มิใช่เกิดจากอาการบาดเจ็บที่เคยได้รับจากการถูกยิง ฉะนั้น การที่ ท. มิได้แถลงว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจึงไม่อาจอนุมานได้ว่าถ้า ท. เปิดเผยความจริงเช่นนั้นจะจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาหรือเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้น อันจะทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยจึงบอกล้างสัญญาประกันชีวิตไม่ได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยจ่ายเงินตามกรมธรรม์ประกันชีวิตของนายเทียนเต็ก เซี่ยงหว็องพร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่าในขณะเอาประกันชีวิตนายเทียนเต็กแถลงเท็จว่าตนมีอนามัยดีก่อนเอาประกันชีวิตไม่เคยรับการรักษาจากแพทย์เกี่ยวกับกระดูกสันหลังไม่เคยรับการรักษาในโรงพยาบาลไม่เคยผ่าตัดแต่ความจริงนายเทียนเต็กเคยถูกยิงกระสุนปืนถูกกระดูกสันหลังต้องเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลหากนายเทียนเต็กแถลงตามความจริงจำเลยจะบอกปัดไม่ทำสัญญาสัญญาประกันชีวิตจึงเป็นโมฆียะจำเลยได้บอกล้างสัญญาแล้วโจทก์ไม่มีสิทธิรับเงินประกันชีวิต
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยใช้เงินตามฟ้องแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ‘ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าเมื่อระหว่างปีพ.ศ.2519 ถึงปีพ.ศ.2520 นายเทียนเต็ก เซี่ยงหว็องถูกคนร้ายชิงรถจักรยานยนต์ที่ขับขี่ไปคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงนายเทียนเต็กได้รับบาดเจ็บ ต้องรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบ้านโป่งประมาณเดือนเศษแล้วกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านครั้นวันที่ 30 เมษายน 2523นายเทียนเต็กทำสัญญาประกันชีวิตกับตัวแทนของจำเลยโดยมิได้แจ้งแก่ตัวแทนของจำเลยว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลต่อมาเดือนตุลาคม 2523 นายเทียนเต็กถึงแก่กรรมคงมีปัญหาว่าการที่นายเทียนเต็กไม่แจ้งข้อความจริงดังกล่าวแก่ตัวแทนจำเลยทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะหรือไม่
พิเคราะห์แล้วในคำขอประกันชีวิตของนายเทียนเต็กเอกสารหมาย ล.5รายงานของตัวแทนบริษัทของจำเลยระบุว่านายเทียนเต็กมีสุขภาพสมบูรณ์ดีนายแพทย์วิชาญ ลีละวัฒน์พยานจำเลยผู้ตรวจสุขภาพของนายเทียนเต็กก็เบิกความว่าได้ตรวจระบบประสาทกล้ามเนื้อขาและความพิการของขาเห็นว่าเป็นปกติเหมือนบุคคลธรรมดาทั่วไป แสดงว่าขณะที่นายเทียนเต็กเอาประกันชีวิตกับจำเลยนายเทียนเต็กมีสุขภาพโดยทั่วไปดีส่วนที่จำเลยมีหลักฐานมาแสดงว่าขณะที่นายเทียนเต็กไปตรวจเลือกเพื่อเข้ารับราชการทหารนายเทียนเต็กมีกล้ามเนื้อขาทั้งสองข้างเหี่ยวลีบก็เป็นเวลาก่อนเอาประกันชีวิต 1 ปีเศษระหว่างระยะเวลาที่ได้รับบาดเจ็บจนถึงเวลาที่ขอเอาประกันชีวิตนายเทียนเต็กอาจได้รับการบำบัดรักษาเรื่อยมาจนอวัยวะต่าง ๆของร่างกายดีขึ้น นายแพทย์วิชาญผู้ตรวจร่างกายนายเทียนเต็กจึงระบุว่าสุขภาพปกติเหมือนบุคคลทั่วไป จำเลยก็มิได้นำสืบว่าอาการบาดเจ็บที่นายเทียนเต็กได้รับมาจะเป็นสาเหตุให้นายเทียนเต็กถึงแก่กรรมเร็วกว่าระยะเวลาในสัญญาประกันชีวิตและเหตุที่นายเทียนเต็กถึงแก่กรรมก็มิใช่เกิดจากอาการบาดเจ็บที่เคยได้รับจากการถูกยิง ฉะนั้นการที่นายเทียนเต็กมิได้แถลงว่าเคยเจ็บป่วยเกี่ยวกับกระดูกสันหลังและเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจึงไม่อาจอนุมานได้ว่าถ้าเปิดเผยข้อความจริงเช่นนั้นจะจูงใจให้จำเลยบอกปัดไม่ยอมทำสัญญาหรือเรียกเบี้ยประกันสูงขึ้นอันจะทำให้สัญญาประกันชีวิตเป็นโมฆียะ จำเลยจึงบอกล้างไม่ได้และต้องรับผิดใช้เงินตามสัญญาประกันชีวิต ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้วฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.