คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2262/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์เป็นลูกจ้างในบริษัทจำเลย เรียกร้องเอาเงินตอบแทนพิเศษจากกำไรสุทธิทางบัญชีตามสัญญาจากจำเลยเป็นเงินเปอร์เซ็นต์จึงเป็นการเรียกร้องเอาสินจ้างชนิดอื่นเพื่อการงานที่ผู้รับจ้างได้กระทำตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165(8)แล้ว มีอายุความ 2 ปี หาใช่อายุความ 10 ปีไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยจ้างโจทก์เป็นลูกจ้างประจำ ทำหน้าที่หัวหน้าควบคุมการผลิตสารส้ม จำเลยตกลงว่าเมื่อจำเลยขายสารส้มได้เงินเท่าใดจะคิดหักค่าซื้อวัตถุดิบและค่าใช้จ่าย แล้วมีกำไรสุทธิทางบัญชี จำเลยจะจ่ายให้แก่โจทก์อีกร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิทุกปี แต่เมื่อครบกำหนดคิดกำไรแต่ละสิ้นปีจำเลยมิได้จ่ายเงินดังกล่าวให้แก่โจทก์ ซึ่งจำเลยต้องจ่ายเงินตามข้อตกลงดังกล่าวตั้งแต่สิ้นปี 2513 ถึงสิ้นปี 2528 ตามบัญชีท้ายฟ้องรวมเป็นเงิน1,520,000 บาทแก่โจทก์ ต่อมาวันที่ 6 มกราคม 2529 จำเลยเลิกจ้างโจทก์เพราะยุบแผนกสารส้มและจำเลยซื้อสารส้มจากองค์การสารส้ม กรมวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย โจทก์ขอคิดค่าเสียหายที่ต้องตกงานและขาดรายได้ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินทั้งสองจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยตกลงกับโจทก์ว่า มีกำไรสุทธิทางบัญชีจะจ่ายให้แก่โจทก์ร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิทุกปีปรากฏว่าตั้งแต่ปี 2513 จำเลยไม่เคยมีกำไร และในปี 2528จำเลยหยุดการผลิตสารส้ม จำเลยเลิกจ้างโจทก์เนื่องจากจำเลยดำเนินการขาดทุนจึงยุบแผนกสารส้ม เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรมแล้ว ฟ้องโจทก์ในส่วนที่เรียกร้องเงินเปอร์เซ็นต์จากกำไรสุทธิตั้งแต่ปี 2513 ถึงสิ้นปี 2527 ขาดอายุความเนื่องจากฟ้องเกเนกว่า 2 ปีนับแต่วันมีสิทธิ ขอให้พิพากษายกฟ้อง
ศาลแรงงานกลาง พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์และจำเลย อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อุทธรณ์ว่าเงินเปอร์เซ็นต์ตามสัญญาเอกสารหมาย จ.2 ข้อ 2 มิใช่สินจ้างชนิดอื่นเพื่อการงานที่ทำ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 165 (8) เพราะมิใช่เงินตอบแทนพิเศษตามที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัย หากแต่เป็นเงินที่จำเลยจะแบ่งปันผลกำไรให้แก่โจทก์ตามสัญญา จึงไม่อยู่ในอายุความ 2 ปี ตามบทมาตราดังกล่าว แต่มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 164 เพราะไม่มีบทกฎหมายบัญญัติอายุความไว้นั้นพิเคราะห์แล้ว ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (8) บัญญัติว่า ‘บุคคลผู้รับจ้างใช้การงานส่วนบุคคลเรียกเอาเงินจ้างค่าจ้างหรือสินจ้างชนิดอื่นเพื่อการงานที่ทำ…’ เห็นว่าโจทก์เป็นลูกจ้างหรือผู้รับจ้างในบริษัทจำเลย เรียกร้องเอาเงินตอบแทนพิเศษจากกำไรสุทธิทางบัญชีตามสัญญาจากจำเลย กรณีจึงเป็นการเรียกร้องเอาสินจ้างชนิดอื่นเพื่อการงานที่ผู้รับจ้างได้กระทำ ตรงตามความหมายแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (8) แล้ว จึงมีอายุความเรียกร้อง 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 หาใช่มีอายุความ 10 ปี ดังข้ออุทธรณ์ของโจทก์ไม่
พิพากษายืน.

Share