คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2188/2530

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

คำร้อง ของ จำเลยขอขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลชั้นอุทธรณ์อ้างเหตุว่ากรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินต้องเดินทางไปต่างประเทศกะทันหันเกี่ยวกับธุรกิจสำคัญของบริษัททนายจำเลยมิได้เตรียมเบิกเงินค่าธรรมเนียมศาลไว้ก่อนเนื่องจากไม่คาดคิดว่ากรรมการผู้จัดการจะต้องเดินทางกะทันหัน จึงไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมศาลในกำหนดนั้น พฤติการณ์ดังกล่าวเป็นเพราะความผิดหรือบกพร่องของจำเลยเอง ยังถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะพึงมีคำสั่งขยายระยะเวลาการชำระค่าธรรมเนียมศาลให้จำเลยได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันใช้เงินค่าเหล็กเส้นจำนวน 415,286 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่าไม่เคยมีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันใช้เงินให้โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยที่ 2 ยื่นอุทธรณ์ และยื่นคำร้องขอขยายเวลานำเงินค่าขึ้นศาลและค่าธรรมเนียมใช้แทนโจทก์ออกไป 10 วัน
ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ที่จำเลยที่ 2 ฎีกาว่า นางสมทรง โสรัตกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 2 ผู้มีอำนาจสั่งจ่ายเงินในนามของจำเลยที่ 2 ต้องเดินทางไปต่างประเทศกะทันหั้นเกี่ยวกับธุรกิจสำคัญของบริษัทในวันที่ 14 ตุลาคม 2528 ทนายจำเลยที่ 2 มิได้เตรียมเบิกเงินค่าธรรมเนียมศาลซึ่งครบกำหนดยื่นอุทธรณ์ในวันที่16 ตุลาคม 2528 จำนวนเงิน 26,930 บาท ไว้ก่อน เนื่องจากไม่คาดคิดว่ากรรมการผู้จัดการจะต้องเดินทางกะทันหั้น จำเลยที่ 2 จึงไม่อาจชำระค่าธรรมเนียมศาลในวันที่ 16 ตุลาคม 2528 จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลภายใน 10 วันตามคำร้องของจำเลยที่ 2 ถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 นั้น เห็นว่าข้อเท็จจริงตามคำร้องของจำเลยที่ 2 เป็นเพราะความผิดหรือบกพร่องของจำเลยที่ 2 เองยังถือไม่ได้ว่ามีพฤติการณ์พิเศษอันศาลจะพึงมีคำสั่งขยายระยะเวลาชำระค่าธรรมเนียมศาลให้จำเลยที่ 2 ได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ฎีกาจำเลยที่ 2 ฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน.

Share