คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1252/2530

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้หนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้จะขาดอายุความแต่ลูกหนี้ได้ทำหนังสือรับสภาพความรับผิด โดยเจ้าหนี้มอบอำนาจให้ น. เป็นตัวแทนทำขึ้นกับลูกหนี้และลูกหนี้ได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้บางส่วน หนังสือรับสภาพความรับผิดดังกล่าวจึงเป็นสัญญาที่ฟ้องบังคับกันได้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะอ้างว่าสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ขาดอายุความหาได้ไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

ย่อยาว

คดีนี้ศาลชั้นต้นสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้เด็ดขาด เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วเห็นว่าหนี้ที่เจ้าหนี้มาขอรับชำระหนี้เป็นหนี้ที่ขาดอายุความต้องห้ามมิให้รับชำระหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา94 ควรยกคำขอรับชำระหนี้รายนี้ ตามพระราชบัญญัติล้มละลายพุทธศักราช 2483 มาตรา 117 (1)
ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ขอรับชำระหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่า แม้หนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้จะขาดอายุความแต่ลูกหนี้ได้ทำหนังสือรับสภาพความรับผิดลงวันที่ 9 มกราคม 2524 และได้ชำระหนี้ให้เจ้าหนี้บางส่วนเป็นเงิน 70,000 บาท เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2524 หนังสือรับสภาพความรับผิดที่เจ้าหนี้และลูกหนี้ทำไว้เป็นสัญญาที่ฟ้องบังคับได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 188 ลูกหนี้จึงต้องรับผิดตามสัญญาดังกล่าว พิพากษากลับอนุญาตให้บริษัทยิบอินซอยและแย๊คส์ จำกัด เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ตามสัญญารับสภาพความรับผิดในหนี้จำนวน 1,871,775 บาท โดยให้หักเงินที่ลูกหนี้ชำระแล้วจำนวน 70,000 บาทออก กับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี ในต้นเงินหลังจากหักเงิน 70,000 บาท ออกแล้วจนถึงวันที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 107 (3),130 (8) ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์ให้เป็นพับ
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาว่า หนังสือรับสภาพความรับผิดโดยสัญญาตามเอกสารหมาย จ.1 ที่นายนิยม ลงนามในฐานะตัวแทนเจ้าหนี้ ผู้ขอรับชำระหนี้มิได้นำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ว่าได้ทำการเป็นตัวแทน ย่อมรับฟังไม่ได้ว่านายนิยม ลงนามในหนังสือรับสภาพความรับผิดในฐานะตัวแทนของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ จึงถือไม่ได้ว่าเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้ลงนามในหนังสือรับสภาพความรับผิดดังกล่าว
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ‘ที่เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้มิได้นำหลักฐานการเป็นตัวแทนในการทำสัญญารับสภาพความรับผิดเอกสารหมาย จ.1 มาแสดงต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็เพราะไม่มีการโต้แย้งทักท้วงในเรื่องความสมบูรณ์ถูกต้องของการมอบอำนาจดังกล่าว เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้จึงอ้างแต่เอกสารหมาย จ.1 ซึ่งเป็นหลักฐานแห่งมูลหนี้ที่ขอรับชำระเท่านั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เพียงแต่โต้แย้งไว้ในความเห็นที่เสนอต่อศาลชั้นต้นว่านายนิยมได้ลงนามในหนังสือรับสภาพความรับผิดในฐานะเป็นตัวแทนเจ้าหนี้ก่อนที่จะได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องร้องคดีนี้เท่านั้น ซึ่งการมอบอำนาจให้ฟ้องร้องคดีนี้เป็นคนละกรณีกับการมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนในการทำหนังสือรับสภาพความรับผิดตามเอกสารหมาย จ.1 และเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ก็ได้ส่งสำเนาหนังสือมอบอำนาจการเป็นตัวแทนดังกล่าวประกอบฟ้องอุทธรณ์แล้วเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ก็มิได้กล่าวแก้ว่าหนังสือมอบอำนาจนั้นมิได้มีอยู่จริง ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่านายนิยมได้รับมอบอำนาจให้เป็นตัวแทนของเจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ทำหนังสือรับสภาพความรับผิดไว้ตามเอกสารหมาย จ.1 จริงเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในฐานะผู้มีอำนาจจัดการทรัพย์สินแทนลูกหนี้จึงไม่อาจจะอ้างได้ว่า หนี้ที่เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ดังกล่าวเป็นหนี้ที่จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้เนื่องจากสิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ขาดอายุความ
ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เจ้าหนี้ได้รับชำระหนี้ชอบแล้ว ฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.

Share