แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
อำนาจที่จะพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงใด เป็นอำนาจโดยเฉพาะของกรมตำรวจตาม พ.ร.บ. คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 35 โจทก์อ้างว่าคำสั่งของกรมตำรวจจำเลยที่ 2 ที่ไม่อนุญาตให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลต่างด้าว อยู่ในราชอาณาจักรต่อไปเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายขอให้ศาลเพิกถอน แต่คำฟ้องโจทก์ไม่ได้ความว่าคำสั่งดังกล่าวฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายใด ศาลไม่อาจพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ซึ่งเป็นคนต่างด้าว ยื่นคำร้องขออยู่ในพระราชอาณาจักรต่อไปอีก 1 ปี กองตรวจคนเข้าเมืองจำเลยที่ 1รับคำร้องแล้วเสนอกรมตำรวจ จำเลยที่ 2 พิจารณา จำเลยที่ 2 ไม่อนุมัติและมีคำสั่งให้โจทก์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของจำเลย โดยอ้างว่าจำเลยพิจารณาเอาเองตามอำเภอใจ ไม่มีหลักเกณฑ์
ศาลชั้นต้นไม่รับฟ้องจำเลยที่ 1 เพราะไม่เป็นนิติบุคคล
จำเลยที่ 2 ให้การว่า คำสั่งของจำเลยเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
ศาลชั้นต้นงดชี้สองสถานและสืบพยานแล้วพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาต่อไปแล้วมีคำพิพากษาใหม่
จำเลยที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า อำนาจที่จะพิจารณาสั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตให้บุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรเป็นระยะเวลาเพียงใด เป็นอำนาจโดยเฉพาะของจำเลยที่ 2 แต่เมื่อพิจารณาคำฟ้องตลอดแล้วไม่ได้ความว่า คำสั่งของจำเลยที่ 2 ฝ่าฝืนต่อบทกฎหมายใด จึงถือไม่ได้ว่าคำสั่งของจำเลยที่ 2 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลไม่อาจพิพากษาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวได้ ที่ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นดำเนินการพิจารณาต่อไป ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง